ความงาม (Aesthetics)
การฉีดฟิลเลอร์
หากคุณเป็นคนที่กำลังสนใจในเรื่อง การฉีดฟิลเลอร์ หรือกำลังวางแผนเพื่อไปฉีดฟิลเลอร์เป็นครั้งแรก เพื่อทำให้ผิวหนังกระชับ เต่งตึง เติมเต็มส่วนที่เป็นร่อง และปรับรูปหน้า
วันนี้ทางเราได้เตรียมข้อมูลที่คุณควรทราบสำหรับการฉีดฟิลเลอร์มาอย่างครบถ้วน เพื่อให้คุณพร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มความสวยในแบบที่คุณต้องการมาให้ค่ะ
POSTED ON 11/05/2022 BY MICHIKOCLINIC

การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร
ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าสู่ผิวหนัง โดยสารที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบันทำมาจากกรดไฮยาลูโรนิก(Hyaluronic Acid) ซึ่งสามารถสลายตัวไปได้เองตามธรรมชาติ กรดไฮยาลูโรนิกที่ใช้ทำฟิลเลอร์มีคุณสมบัติใกล้เคียงและพบได้ตามธรรมชาติในผิวหนังของมนุษย์
กรดไฮยาลูโรนิกมีความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้นจึงทำให้ผิวดูอวบอิ่ม ลดริ้วรอย เติมเต็มจุดบกพร่องบนใบหน้าและอวัยวะอื่นๆ และด้วยเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ล๊อคหน้าตึงที่ Michiko Clinic ยังสามารถใช้ฟิลเลอร์เพื่อการยกกระชับใบหน้าได้อีกด้วย



ฟิลเลอร์ที่เป็นกรดไฮยาลูโรนิกจะมีลักษณะคล้ายเจลที่ใช้ฉีดได้ทั้งที่ชั้นผิวหนัง ชั้นไขมันชั้นตื้น ชั้นไขมันชั้นลึก และโครงสร้างกระดูก เมื่อฉีดเข้าไปจะสามารถแก้ไขโครงสร้างของใบหน้าที่มีปัญหาได้
หากเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่ถูกต้องและฉีดถูกเทคนิค ฟิลเลอร์จะสามารถเซ็ตตัวเป็นโครงสร้างกระดูก ไขมันชั้นลึก ไขมันชั้นตื้น รวมทั้งกลืนเข้ากับเนื้อเยื่อของผิวหนังได้ดี
นอกจากนั้นกรดไฮยาลูโรนิกในฟิลเลอร์สามารถดึงดูดโมเลกุลของน้ำจนพองขึ้นเป็นเจล ทำให้เนื้อเยื่อรอบข้างชุ่มชื้นขึ้นได้
หากเคยได้ยินมา เมื่อสมัยก่อนฟิลเลอร์มีการทำมาจากสารมากมายหลายประเภท เช่น ซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว ไขมันปลาวาฬ ที่มีความสามารถในการเติมเต็มแบบเดียวกัน
แต่ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมและไม่ผ่านอย. เนื่องจากสารเหล่านั้นไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้เมื่อฉีดเข้าไป จึงส่งผลเสียในระยะยาว ทำให้เกิดใบหน้าห้อยใบหน้าคล้อยตกตามแรงโน้มถ่วง จากการที่มีก้อนหรือสิ่งแปลกปลอมในใบหน้า
ฟิลเลอร์ใช้ทำอะไร?
ฟิลเลอร์ถูกใช้ครั้งแรกในการเติมเต็มทำให้ใบหน้าดูเด็กลง โดยใช้เพื่อเสริมและปรับโครงสร้างของใบหน้า เช่น การเติมคางให้ดูเป็นทรงมนหรือพุ่งรับกับใบหน้า การเติมใต้ตาให้ดูไม่หมองคล้ำ การปรับรูปหน้าผ่านการเติมแก้มให้ดูพุ่งมีมิติ หรือการเติมร่องแก้มให้ดูตื้นขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปทรงริมฝีปาก การเติมขมับและแก้มตอบที่ยุบเว้าให้เติมสวย
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ฉีดได้ทั้งหมดกี่จุด
นอกจากนี้ด้วยเทคนิคเฉพาะที่ Michiko Clinic ยังสามารถใช้ฟิลเลอร์เทคนิคล๊อกหน้าตึงในการยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวสวยพุ่งดังใจนึก เปรียบเสมือนการผ่าตัดดึงหน้าได้เลยค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=EIECv3Wx6r0ข้อมูลที่ควรรู้สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ :

ฟิลเลอร์ที่คุณหมอเลือกใช้
พญ.วิสุทธิยา บุญสม (หมอกิ๊ฟ)
ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
ทางคลินิกของเรา คุณหมอกิ๊ฟเลือกใช้
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane จากประเทศสวีเดน และ ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ข้อดี Restylane
1. เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์แบรนด์แรกในโลก
2. เป็นฟิลเลอร์ที่มีเทคโนโลยีที่มีโครงสร้างโมเลกุล 2 แบบ จึงมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่น ทำให้คุณหมอสามารถเลือกและดีไซน์ฟิลเลอร์ได้เหมาะกับบริเวณต่างๆบนใบหน้าได้มากที่สุด
3. หลังฉีดใบหน้าบวมช้ำน้อย ฉีดแล้วหน้าไม่บวมฟิลเลอร์
4. เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถใช้แก้ไขความดำใต้ตาได้ดี และอยู่ได้นานเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
5. ใช้ยาปริมาณน้อย แต่ได้ผลลัพธ์มาก เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น
ข้อดี Belotero
1. เป็น Filler ที่มี Cohesevity ดีที่สุด กลืนเข้าเนื้อเยื่อได้ดีมาก ทำให้ไม่เกิดภาวะเป็นก้อนหรือเป็นลำ
2. สามารถใช้แก้ไขในเคสที่มีปัญหาลำใต้ตาจากโครงสร้างกายวิภาคเดิมที่ ลำกล้ามเนื้อใต้ตาทำงานมากเกินไปได้ดีมาก
3. มีปริมาณสาร Hyarulonic acid มากที่สุดเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ในท้องตลาด ทำให้หลังจากฉีดไป ฟิลเลอร์คงทนและอยู่ได้นาน
ความแตกต่างที่สำคัญของทั้ง 2 ยี่ห้อ
1. สำหรับยี่ห้อ Botero เนื่องจาก ตัวฟิลเลอร์กลืนเข้าเนื้อเยื่อได้ดีมาก หากเทียบกับยี่ห้อ Restylane จะพบว่าอาจจะจำเป็นต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่าในการแก้ไขปัญหาเดียวกัน
2. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero หลังฉีดมีโอกาสบวมและเมื่อฟิลเลอร์เซ็ตตัว อาจจะยุบตัวสลายได้เร็วกว่า ยี่ห้อ Restylane
“เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่สำคัญของหมอกิ๊ฟ”
สิ่งสำคัญ หลักๆ คือ
1. การประเมินรูปหน้าให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพและเหมาะสมกับสัดส่วนของอวัยวะต่างๆ บนใบหน้า (ฉีดแล้วหน้าละมุน สัดส่วนรับและเข้ากันเป็นอย่างดี) จากรูปตัวอย่างเช่น สัดส่วนของ จมูก ปาก คาง ในมุมมองด้านข้าง ต้องตั้งอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน
ตามเส้น E-line รวมถึงมิติความพุ่งของโหนกแก้มจะต้องพุ่งและไม่กว้างจนเกินไป (Oreintal Lifting Technique)
2. มีการจัดลำดับความสำคัญของความสวยบนใบหน้า โดยคุณหมอจะช่วยประเมินให้เบื้องต้นก่อนว่าจุดไหนมีความสำคัญ ควรได้รับการปรับแก้ไขก่อน (เทคนิคฉีดน้อยให้ได้ผลลัพธ์มาก)
3. มีการฉีดเพื่อแก้ไขตามโครงสร้างที่เป็นปัญหา ที่ทำให้เกิดภาวะ Aging ของคนๆนั้น
โดยการแก้ไขเรียงตามลำดับชั้นในส่วนของกระดูก ไขมันชั้นลึก และไขมันชั้นตื้น
ทำให้ได้ให้ความสวยกลับคืนมาแบบเป็นธรรมชาติมากที่สุด ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ไม่เป็นลำ คลำไม่ได้ฟิลเลอร์
(เทคนิค Michiko’s Natural look)
ฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคล๊อกหน้าตึงที่ Michiko Clinic
การฉีดฟิลเลอร์เทคนิคล๊อกหน้าตึงสามารถแก้ไขโครงสร้างที่เป็นปัญหาได้อย่างตรงจุด ทำให้ใบหน้าดูยกกระชับได้ทันทีหลังฉีดโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่เสียเวลาพักฟื้น

ฟิลเลอร์เทคนิคล๊อกหน้าตึงที่ Michiko Clinic ถูกคิดค้นโดยคุณหมอกิ๊ฟ พญ.วิสุทธิยา บุญสม ที่ใช้เทคนิคเฉพาะในการดีไซน์ปรับรูปหน้าคนให้สวยรับกันกับทุกๆอวัยวะบนใบหน้า ทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์ไปดูสวยงามเป็นธรรมชาติ จับไม่ได้ก้อน ไม่เป็นลำ รวมถึงยังสามารถฉีดปรับใบหน้าเพื่อเสริมโหงวเฮ้งได้อีกด้วย
ข้อแตกต่างระหว่างโบท็อกซ์ (Botox) และฟิลเลอร์ (Filler)
ทั้งสองอย่างสามารถใช้เพื่อแก้ไขหรือป้องกันการเสื่อมสภาพของผิวหนังซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เราดูมีริ้วรอยและดูอายุมากขึ้น แต่ฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์นั้นทำงานต่างกัน โดยข้อแตกต่างของโบท็อกและฟิลเลอร์มีดังนี้
ฟิลเลอร์ จะถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มร่องลึก เพิ่มความเต่งตึงของผิวหนัง
โบท็อกซ์ (ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของ Botulinum Toxin) จะทำหน้าที่ตรงกันข้ามในการช่วยคลายกล้ามเนื้อ ปิดกั้นสัญญาณประสาทในกล้ามเนื้อเป็นการชั่วคราว เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวและรักษาริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ต่างๆบริเวณ หน้าผาก รอยตีนกา รอบดวงตา ปาก และอื่นๆ
ข้อแตกต่างระหว่างโบท็อกซ์ (Botox) และฟิลเลอร์ (Filler)
ฟิลเลอร์เป็นสารคล้ายเจลที่ฉีดเข้าไปในส่วนต่างๆ ของผิวหนัง โดยความลึกของการฉีดและความสม่ำเสมอของการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ที่จะได้รับ
สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งในร่างกาย เช่น ใบหน้า ฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเติมแก้ม ฉีดฟิลเลอร์ปาก ฉีดฟิลเลอร์ที่ขมับ หน้าผาก และจมูก

โดยการฉีดฟิลเลอร์ระดับลึกจะช่วยปรับโครงสร้างของใบหน้า การฉีดด้วยความลึกระดับกลางจะลดรอยย่นบนใบหน้า และการฉีดผิวเผินเข้าไปในผิวหนังชั้นหนังแท้ด้วยฟิลเลอร์ที่อ่อนนุ่มนั้นจะช่วยให้ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น
เต่งตึง และให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง โดยนิยมใช้เข็มปลายทู่ หรือ Blunt Cannula มีขนาดเล็กกว่าไส้ปากกา ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ไม่คมบาดเนื้อและไม่แทงทะลุเส้นเลือด ซึ่งเหมาะกับการเดินยาบริเวณที่มีเส้นเลือดเยอะ เช่น ใบหน้า ใต้ตา แก้ม รอยกราม ริมฝีปาก และอื่นๆ
ผลลัพธ์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์
ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและตำแหน่งที่ทำการรักษา เป็นเรื่องปกติที่จะมีอาการบวมและอาจถึงขั้นมีรอยฟกช้ำได้ประมาณ 2-3 วัน หลังจากมีการเติมฟิลเลอร์บนใบหน้า
แต่โดยทั่วไปเราจะสามารถเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนของบริเวณที่ทำการรักษาได้ในทันที และฟิลเลอร์ที่ฉีดไปจะเซ็ตตัวสวยเต็มโดยอาจใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์ถึงหนึ่งเดือน
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องใช้เวลาปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณหมอสามารถเข้าใจความต้องการและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและไม่เสียเงินซ้ำซ้อนสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์
ฟิลเลอร์ประเภทไหนดีที่สุด
อย่างที่ทราบกันว่าฟิลเลอร์นั้นมีหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับบริเวณที่จะทำการรักษา โดยมีฟิลเลอร์ที่ใช้กันทั่วไป และเป็นที่รู้จัก เช่น ยี่ห้อ Juvederm, Belotero และ Restylane

ผู้ฉีดสามารถสอบถามคุณหมอผู้ทำการรักษาเกี่ยวกับประเภทรุ่นของฟิลเลอร์เพื่อการรักษาที่เหมาะสมที่สุด โดยคุณหมอจะทำการให้ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจคุณสมบัติทางกายภาพของแต่ละรุ่นฟิลเลอร์ รวมถึงความเหมาะสมของชนิดและรุ่นของฟิลเลอร์กับบริเวณที่ทำการรักษา
ตัวอย่างเช่น หากต้องการเสริมคางแบบไม่ศัลยกรรม คุณหมอจะแนะนำและเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลหนักสามารถจัดโครงสร้างและปั้นขึ้นทรงได้ ในขณะที่การใช้ฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มริมฝีปาก คุณหมอก็อาจเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่โมเลกุลเบาลงและมีความกลืนเป็นธรรมชาติ เพื่อให้รู้สึกนิ่มนวลมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์มีความเสี่ยงหรือไม่
เนื่องจากกรดไฮยาลูโรนิกเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในผิวหนังของมนุษย์ ร่างกายของเราจึงยอมรับว่า เป็นสารธรรมชาติ จึงจัดว่าค่อนข้างปลอดภัย ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า การใช้ในระยะยาวนั้นจะก่อให้เกิดความเสียหายได้
แต่อาจมีผลข้างเคียงกับผู้ใช้บางรายที่อาจมีอาการแพ้จากการที่โมเลกุลของฟิลเลอร์บางชนิดไปทำปฏิกิริยากับยาหรืออาหารบางประเภท ซึ่งโอกาสที่พบได้น้อยมาก
การฉีดฟิลเลอร์สามารถแก้อะไรได้บ้างบนใบหน้า
เราสามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อ แก้หน้าผาก ขมับ ใต้ตา ตาลึก ตาโบ๋ ตาคล้ำ ยิ้มเห็นลำกล้ามเนื้อตา ฉีดแก้หน้าแก้มหัก แก้แก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก คาง และริมฝีปาก ได้เป็นต้น
ในการปรับรูปหน้าสามารถใช้ฟิลเลอร์อะไรฉีดเพื่อแก้ไข
ฟิลเลอร์ โบท๊อก ร้อยไหม สลายไขมัน ตัวอย่างเช่น รู้สึกหน้ากลม คางสั้น ก็สามารถปรับรูปหน้าได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง ก็จะทำให้หน้าเรียวและหน้าวีขึ้น
บางคนรู้สึกหน้าบานกรามโต ก็สามารถฉีดโบท๊อกกรามเพื่อลดเหลี่ยม ลดมุม ลดความบานของหน้าได้ บางคนแก้มเยอะมีแก้มยุ้ยๆ อันนี้ก็ใช้ยาฉีดสลายไขมัน ทำให้ไขมันแก้มหายไปได้
ใครบ้างที่เหมาะกับการใช้ฟิลเลอร์ในการปรับรูปหน้า
ถ้าคนๆนั้น มีปัญหาของใบหน้าที่เกิดจากโครงกระดูกทรุดตัว ประกอบกับไขมันชั้นลึกและชั้นตื้นมีการยุบหายไป คนนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าแก้ไข การร้อยไหม โบท๊อก หรือสลายไขมัน หรือแม้กระทั่งเครื่องยกกระชับ จำพวกไฮฟู เทอมาจ หรืออัลเทอร่า ก็จะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด
ตัวอย่างรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าค่ะ >>
แนะนำการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าอย่างละเอียด >>
https://www.youtube.com/watch?v=7k20h-aJygQฉีดฟิลเลอร์อันตรายมั้ย
การฉีดฟิลเลอร์ปลอดภัย หากเป็นการฉีดโดยหมอที่มีประสบการณ์มากเพียงพอ เนื่องจากในการฉีดจะต้องอาศัยความรู้ในเรื่องโครงสร้างกายวิภาค (Anatomy)ของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดและเส้นประสาทต่างๆ โครงสร้างชั้นกระดูก กล้ามเนื้อ ไขมันชั้นลึกและชั้นตื้น
ดังนั้นหากฉีดไม่ถูกชั้น หรือแพทย์ผู้ฉีดไม่รู้จักผลิตภัณฑ์ที่ฉีดอย่างดีพอ จะทำให้เกิดอันตรายเกิดเส้นเลือดอุดตัน เนื้อเน่า เนื้อตาย หรือเกิดปัญหาฉีดแล้วเป็นก้อนเป็นลำได้
การฉีดฟิลเลอร์ทำไมถึงมีราคาที่สูง
- เนื่องจากฟิลเลอร์ เป็นสารที่มีโครงสร้างโมเลกุลใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด และฟิลเลอร์จะต้องผ่านกระบวนการคิดค้น วิจัย พัฒนาและผลิตมาเป็นระยะเวลายาวนาน กว่าจะได้โครงสร้างของโมเลกุลในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สามารถนำมาฉีดในจุดต่างๆบนใบหน้าได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรมชาติ
- การฉีดฟิลเลอร์เป็นงานศิลปะของการปรับรูปหน้าขั้นสูง ที่แพทย์ผู้ฉีดจะต้องอาศัยประสบการณ์และการเรียนรู้โครงสร้างทางกายวิภาคของใบหน้าเพื่อมาแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด แม้ผลิตภัณฑ์จะเป็นชนิดเดียวกันแต่เมื่อผู้ฉีดเป็นคนละคน การออกแบบรูปทรงใบหน้าก็ย่อมแตกต่างกัน เปรียบเหมือนศิลปินที่วาดรูปออกมาในสไตล์ที่แตกต่างกัน
เคยได้ยินว่ามีการฉีดฟิลเลอร์แก้ใต้ตาคล้ำได้โดยไม่ต้องใช้ฟิลเลอร์
อันที่จริงก็มีวิธีการแก้ใต้ตาคล้ำได้โดยไม่ต้องใช้ฟิลเลอร์ คือ หลายๆคนรู้จักกัน ว่าเป็นการฉีด Filorga หรือ Cytocare พวกนี้คือตัวที่มีส่วนประกอบเหมือนกับฟิลเลอร์ คือมีสาร hyaluronic acid แต่เป็นชนิดที่ไม่มีการสานโมเลกุลให้เป็นร่างแห ดังนั้นหลังฉีดจะอยู่ได้สั้นๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ ดังนั้นจึงต้องมีการฉีดซ้ำหลายครั้ง ที่เราห็นทั่วๆไป คือเค้ามักจะขายเป็นคอร์ส 5 ครั้ง 10 ครั้ง แล้วทำไมไม่ฉีดฟิลเลอร์แก้ใต้ตาคล้ำด้วยฟิลเลอร์ไปเลย ฉีดครั้งเดียวอยู่ได้นานเป็นปี จบกว่านะ
https://www.youtube.com/watch?v=BPf1clg1Wo8กลัวว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วจะเป็นก้อน
หากหมอคนฉีดเลือกรุ่นของฟิลเลอร์ได้เหมาะสมกับปัญหาของใบหน้า ร่วมกับอาศัยประสบการณ์และความรู้ทางกายวิภาคของใบหน้าอย่างถูกต้องแล้ว ปัญหาเป็นก้อนเป็นลำ ฉีดแล้วไม่เนียนย่อมไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าราคาแพง ไปผ่าตัดดึงหน้าคุ้มกว่ามั้ย
การผ่าตัดดึงหน้า หน้าตึงขึ้นจริงเพราะมีการดึงหนังมาเย็บไว้ แต่เนื้อข้างในก็ยังกลวงอยู่ดี ซึ่งหน้าจะยกคนละแบบกับการฉีดฟิลเลอร์ คนที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อการยกกระชับนั้นจะได้หน้าที่เปล่งปลั่ง เต่งตึง มีน้ำมีนวลและเป็นธรรมชาติ เหมือนวัยเด็กอีกครั้ง
ฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วจะตกค้าง แก้มจะห้อยย้อย คางกลายเป็นแม่มดมั้ย
ปัจจุบันฟิลเลอร์เป็นสารที่สลายตัวได้ตามธรรมชาติ สามารถคงสภาพอยู่บนใบหน้าได้นาน 1-2 ปี โดยจะค่อยๆสลายตัวไป โดยอาศัยน้ำย่อยในร่างกายของเรา ดังนั้นฟิลเลอร์แท้ที่ฉีดโดยแพทย์ไม่ตกค้าง แต่ถ้าฉีดโดยหมอกระเป๋า หรือสมัยก่อนที่มีการเอาซิลิโคนเหลว หรือคอลลาเจนเหลวมาฉีด อันนี้ตกค้างแน่นอน
คนที่ทำซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว ไขมันปลาวาฬ สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้หรือไม่?
หากคุณเคยฉีดสารที่ไม่สามารถสลายตัวได้โดยธรรมชาติลงบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น ซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว หรือไขมันปลาวาฬ คุณสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ แต่ไม่ควรทำการฉีดฟิลเลอร์ทับลงไปในบริเวณนั้น ๆ
เหตุผลที่ไม่ควรทำการฉีดฟิลเลอร์ทับลงไปในบริเวณที่เคยฉีดสารที่ไม่สามารถสลายตัวได้นั้น เป็นเพราะซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว หรือไขมันปลาวาฬ เป็นสิ่งแปลกปลอมที่สามารถกักเก็บเชื้อโรคไว้ภายในตัวเองได้ หากทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปทับในจุดเดิม เข็มของฟิลเลอร์ใหม่อาจจะทำให้เชื้อโรคต่างๆ ที่ถูกกักเก็บไว้อยู่ภายในแตกออกหรือปะทุออกมา แพร่กระจาย และทำให้คนไข้เกิดอาการติดเชื้อ บวมแดง อักเสบ และแสบร้อนได้
โดยวิธีการแก้ไขสำหรับผู้ที่เคยฉีดสารที่ไม่สามารถสลายตัวได้ ดังเช่น ซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว หรือไขมันปลาวาฬ แต่ต้องการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้น แพทย์จะแนะนำให้ทำการผ่าตัด ขูดซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว หรือไขมันปลาวาฬออกก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
แต่ทั้งนี้ การผ่าตัดเพื่อขูดสารดังกล่าวเหล่านั้นออก ก็อาจจะมีเสี่ยงต่อเส้นประสาท ซึ่งจะทำให้เกิดอาการชา หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว หรือทำให้เนื้อบางส่วนแหว่งหายไปได้ จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจนะคะ
คนที่เคยเติมซิลิโคนบริเวณคาง แล้วต้องการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า ก็จะต้องการไปผ่าตัดเอาซิลิโคนออกก่อนเช่นเกียวกันนะคะ ซึ่งการผ่าตัดจะไม่อันตรายเท่าการผ่าตัดขูดซิลิโคนเหลวเพราะแพทย์ไม่จำเป็นต้องขูดเนื้อดีออกไปด้วย
ส่วนคนที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้วแต่ไม่ชอบ รู้สึกว่าคางแหลมเกินไปหรือคางย้อยเหมือนแม่มด ไม่ต้องผ่าตัด เพียงฉีดสลายฟิลเลอร์ออกครบ 7 วัน ก็สามารถให้แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ให้ใหม่ ดีไซน์ให้สวยขึ้นรับกับใบหน้าได้ทันทีค่ะ
สรุป
โดยปกติฟิลเลอร์อาจจะต้องใช้เวลาถึงสองสัปดาห์ถึงหนึ่งเดือนกว่าจะเซ็ตตัวเข้าที่ โดยทั่วไปคุณหมอจะมีการนัดติดตามผลหลังทำการรักษาไป
ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์นี้เราสามารถฉีดสลาย แก้ไขหรือปรับตกแต่งได้อยู่ตลอดเวลา และฟิลเลอร์ที่เป็นกรดไฮยาลูโรนิกจะถูกย่อยสลายได้โดยน้ำย่อยที่มีอยู่ในผิวหนังตามธรรมชาติ ซึ่งโดยเฉลี่ยกระบวนการการย่อยสลายนี้จะใช้เวลาตั้งแต่ 6 ถึง 24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้และบริเวณที่ทำการรักษา
โดยบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เช่น คาง ขมับมักจะอยู่ได้นานกว่า ในขณะที่บริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมาก เช่น ริมฝีปาก ร่องแก้ม ใต้ตา มักจะอยู่ได้ในระยะเวลาที่สั้นลง
Latest post
Customers are lovin’ it




