ความงาม (Aesthetics)

สลายฟิลเลอร์ที่ไหนดี?

ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์ ต้องรู้อะไรบ้าง

ฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน

ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์ ต้องรู้อะไรบ้าง

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม เป็นก้อน เกิดจากสาเหตุใด?

 การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมเป็นก้อน เกิดจาก 4 สาเหตุหลัก ได้แก่
    1. อาการบวมตามปกติ (Inflammatory Phase) ในระยะฉับพลันหลังการฉีดฟิลเลอร์ ระยะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติใน 3 วันแรก จะค่อยๆ ดีขึ้นภายหลังจากวันที่ 4 และภายใน 2 สัปดาห์ฟิลเลอร์จะเกิดการเซ็ตและกลืนเข้ากับเนื้อเยื่อบนใบหน้า สาเหตุนี้นั้นมาจากภายหลังการฉีดฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ อาจจะมีการบวมน้ำขึ้นได้ เนื่องจากฟิลเลอร์ที่เป็นเนื้อเจลยังไม่กลืนเข้าเนื้อเยื่อดีพอ ทำให้บริเวณที่ฉีดมีลักษณะบวมหรือคลำเป็นก้อนได้เล็กน้อย
    1. อาการบวมจากปฏิกิริยาตอบสนองของภูมิคุ้มกันของร่างกาย (Delayed-type Hypersensitivity) มักเป็นระยะที่ตามมาภายหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ไป ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป จนถึงหลายเดือนหรือปี เป็นภาวะที่เกิดปฏิกิริยาการบวมแบบเป็นๆ หายๆ เกิดจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกันตัวเองต่อฟิลเลอร์ อาจเกิดเนื่องจากอาการแพ้สารวัตถุกันเสีย สารที่ใช้เชื่อมโมเลกุลพันธะของฟิลเลอร์ให้มีการคงรูป รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น นอนพักผ่อนไม่พอ การรับประทานอาหารแสลง ของหมักของดอง  เป็นต้น ทั้งนี้การบวมมากหรือบวมน้อยขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีดอีกด้วย โดยการบวมแบบนี้สามารถหายได้เองภายใน 1-3 วัน แต่ถ้าหากผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่ดีขึ้น มีอาการบวมแดงร้อนมากขึ้น อาจมีการติดย แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการทันทีค่ะ
    1. อาการบวมจากการติดเชื้อ สาเหตุการติดเชื้ออาจเกิดจากเทคนิคการฉีด (Sterile technique) ที่ไม่สะอาดเพียงพอ รวมไปถึงมีการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปยังบริเวณสิวหรือแผลต่าง ๆ ที่มีการติดเชื้ออยู่แล้ว ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย รา หรือไวรัสได้ โดยการติดเชื้อจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่
      • การติดเชื้อทันทีหลังฉีด ทำให้มีอาการปวดร้อน บวมแดงบริเวณที่ฉีด และอุณภูมิภายในร่างกายสูงขึ้นหรือมีไข้
      • การติดเชื้อที่ซ่อนอยู่ภายใต้ฟิลเลอร์ (Bio-filmed) เกิดจากภูมิคุ้มกันภายในร่างกายสร้างถุงหรือแคปซูลขึ้นมาห่อหุ้มเชื้อโรคเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังที่อื่นๆ จึงเกิดภาวะที่เรียกว่า Bio-filmed ขึ้น โดยก้อน Bio-filmed ที่ฝังตัวอยู่ในเนื้อเยื่อนี้ ถ้าหากถูกกระตุ้นด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือมีการใช้เข็มฉีดจิ้มเข้าไปในบริเวณตำแหน่งนั้นๆ เชื้อโรคภายในก้อน Bio-filmed ก็จะสามารถแพร่เชื้อโรคออกมาได้ในภายหลัง
    1. อาการบวมจากเทคนิคการฉีดของแพทย์และตัวรุ่นของฟิลเลอร์ เกิดจากแพทย์ใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปผิดตำแหน่ง ฉีดผิดชั้น ฉีดด้วยปริมาณฟิลเลอร์ที่มากเกินไป หรือเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม ทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดเป็นก้อนบวม ด้วยสาเหตุนี้เราแนะนำให้ฉีดสลายทั้งหมด 100% และค่อยฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขใหม่อีกครั้งค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมเป็นก้อน สามารถทำอย่างไรได้บ้าง?

ในแต่ละสาเหตุของการฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมเป็นก้อน จะมีวิธีการดูแลที่แตกต่างกัน ดังนี้ 
    1. วิธีแก้อาการบวมที่เกิดขึ้นตามปกติ – ในช่วง 3 วันถึง 1 สัปดาห์ สามารถเข้าคลินิกเพื่อให้แพทย์กดไล่น้ำบริเวณที่บวมได้ อีกทั้งยังสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการประคบเย็น ทานยาลดบวม นอนหัวสูง และงดอาหารเค็มได้
    1. วิธีแก้อาการบวมในระยะที่ตามมาภายหลัง (Delayed-type hypersensitivity) – ถ้าหากเกิดอาการบวมเป็นๆ หายๆ บ่อยครั้งเกินไปจนก่อให้เกิดความรำคาญ ควรให้แพทย์พิจารณาการฉีดสลายฟิลเลอร์ออกบางส่วนเพื่อช่วยทำให้อาการดีขึ้น และในครั้งถัดไปอาจจะพิจารณาเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีดค่ะ
    1. วิธีแก้อาการบวมจากเทคนิคการฉีดผิดพลาดของแพทย์ – การฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นหรือผิดตำแหน่ง ทำให้ฟิลเลอร์บวม เป็นก้อนนูน เป็นลำ แพทย์ของ MICHIKO Clinic จะแนะนำว่าคนไข้ควรฉีดสลายฟิลเลอร์เดิมออกทั้งหมด และทำการฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขเข้าไปใหม่อีกครั้ง จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและเปลืองฟิลเลอร์น้อยกว่าการพยายามฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเพื่อแก้ไข
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน
    1. วิธีแก้อาการบวมจากการติดเชื้อ – แพทย์จะต้องให้ยาฆ่าเชื้อจนกระทั่งอาการคนไข้หายดีเสียก่อน จากนั้นจึงสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ออกทั้งหมด เพราะหากฉีดสลายฟิลเลอร์ก่อนการฆ่าเชื้อ เชื้อโรคจะสามารถกระจายไปทั่วร่างกาย ทำให้เกิดอาการติดเชื้อที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น

ปัญหาที่ควรฉีดสลายฟิลเลอร์

    1. ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่เข้าไปเลี้ยงบริเวณที่ฉีด จำเป็นต้องทำการฉีดสลายฟิลเลอร์อย่างเร่งด่วนในทันที โดยสามารถสังเกตอาการได้ดังนี้
      • มีอาการปวดมากในขณะฉีดฟิลเลอร์
      • มีอาการผิวซีดทันทีหลังฉีด เนื่องจากเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงผิวหนังบริเวณนั้นๆได้
      • มีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่ฉีด
      • มีอาการบวมแดงตามแนวเส้นเลือด ปวดแสบปวดร้อน รู้สึกคัน หนองขึ้นตามบริเวณที่ฉีด เป็นอาการของเนื้อตายจากการฉีดฟิลเลอร์ โดยตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการเกิดเนื้อตายมากที่สุด คือ หว่างคิ้ว ร่องแก้ม จมูก และหน้าผาก
ฉีดสลายฟิลเลอร์ อันตรายไหม
ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด
    1. Dyspigmentation of Tear trough เกิดมีเงาสีเทาใต้ตาภายหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ หรือเรียกว่าภาวะ Tyndall effect เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไปบนผิวหนัง ทำให้ผิวดูมีสีอมเทา มีเงาตามกล้ามเนื้อใต้ตา และใต้ตาดูหมองคล้ำกว่าเดิม ซึ่งเป็นอาการที่ไม่สามารถหายไปได้เอง จำเป็นต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ออก
    1. บริเวณที่ฉีดมีอาการบวม เป็น ๆ หาย ๆ จากภาวะ Delayed-type hypersensitivity จนก่อให้เกิดความน่ารำคาญในการใช้ชีวิต
    1. ฟิลเลอร์ใต้ตา มีลักษณะเป็นลำเป็นก้อนใต้ดวงตา แม้ไม่แสดงสีหน้า
    1. สาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ เช่น ฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าบวมล้นเกินไป คางย้อยเป็นแม่มด หรือคนไข้ไม่พอใจในผลลัพธ์หลังการฉีด

ฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร?

ฉีดสลายฟิลเลอร์ที่ไหนดี

การใช้น้ำยาเอ็นไซม์ Hyaluronidase ที่มีลักษณะคล้ายน้ำย่อยธรรมชาติ ฉีดเข้าไปเพื่อสลายสาร Hyaluronic Acid (HA) ตรงจุดบริเวณที่ต้องการแก้ไข ซึ่งถ้าหากเป็นสาร HA แท้ เมื่อฉีดยาสลายเข้าไปจะสามารถเห็นฟิลเลอร์ยุบตัวลงได้ทันที 10-20% และเมื่อฉีดสลายยาฟิลเลอร์ไปนานประมาณ 5-7 วันฟิลเลอร์ก็จะสลายตัวเต็มที่ โดยการใช้ปริมาณยาในแต่ละเคสจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณของฟิลเลอร์เดิมที่ฉีดมา

ทั้งนี้ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ภาวะฉุกเฉิน เช่นฟิลเลอร์อุดตันเข้าเส้นเลือด คุณหมอจะใช้ยาฉีดสลายฟิลเลอร์แบบเข้มข้นให้กับคนไข้จนกว่าอาการจะดีขึ้น แต่หากไม่ใช่ภาวะฉุกเฉิน คุณหมอจะผสมน้ำยาสลายฟิลเลอร์ได้หลายความเข้มข้น ทั้งแบบเข้มข้นน้อยไปจนถึงเข้มข้นมาก และมักจะใช้น้ำยาสลายในปริมาณที่มากกว่าปริมาณฟิลเลอร์ที่คนไข้ฉีดมา เพราะจะต้องฉีดสลายในทุกชั้นใต้ผิว ทั้งชั้นลึก ชั้นกลาง และชั้นตื้น เนื่องจากคุณหมอคนที่ทำการสลายให้ หากไม่ใช่คนเดิมที่ฉีดมาจะไม่มีทางทราบได้ว่าคุณหมอท่านเดิมนั้นฉีดฟิลเลอร์เข้ามาที่ผิวหนังชั้นใด ในปริมาณเท่าไหร่บ้าง 

ส่วนราคาการฉีดสลายฟิลเลอร์ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณของฟิลเลอร์เดิมที่ฉีดมา ฟิลเลอร์แต่ยี่ห้ออาจจะใช้ปริมาณยาสลายไม่เท่ากัน ถ้าฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้นๆมีความเหนียว มีโครงสร้างโมเลกุลที่ค่อนข้างแน่น ก็อาจจะทำให้สลายฟิลเลอร์ได้ยาก ทำให้ต้องใช้ปริมาณยาสลายที่มากกว่าฟิลเลอร์ที่มีความเหนียวน้อยกว่า และโครงสร้างโมเลกุลเบากว่า รวมถึงฟิลเลอร์โมเลกุลที่แน่น อาจจะต้องมีการสลายฟิลเลอร์ซ้ำหลายรอบมากกว่าด้วย

ฉีดยาสลายฟิลเลอร์ แล้วยังมีก้อนใต้ผิวควรทำอย่างไร?

ก้อนใต้ผิวหนัง เกิดจากการใช้ยาสลายฟิลเลอร์ออกไม่หมด คุณหมอจะต้องเพิ่มยาสลายเข้าไปอีก แต่ถ้าหากใช้ยาสลายในปริมาณมากแล้ว แต่ก้อนยังไม่ยุบ อาจสงสัยได้ว่า เป็นก้อนประเภทอื่นที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์ ตัวอย่างเช่น

    • ก้อนไขมันหรือก้อนแฟต
    • ก้อน Granuloma เกิดจากร่างกายของบางคนที่มีการตอบสนองต่อฟิลเลอร์ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ร่างกายจึงสร้างสารอักเสบขึ้นมาเพื่อต่อต้านฟิลเลอร์ แต่ไม่สามารถกำจัดฟิลเลอร์ได้ จึงเกิดเป็นก้อน Granuloma หรือก้อนเนื้อเล็ก ๆ ที่เป็นการอักเสบเรื้อรัง ลักษณะเป็นก้อนค้างอยู่ภายใต้ผิวหนัง ซึ่งจะไม่สามารถใช้สาร Hyaluronidase สลายก้อนค้างตรงบริเวณนั้นได้ เพราะก้อนค้างที่ไม่ได้เกิดจากสาร Hyaluronic Acid ต้องใช้เพียง Steroid ในการรักษาเท่านั้น

Tips : Granuloma คืออะไร?

Granuloma

Granuloma (แกรนูโลมา) คือ ก้อนเนื้อเล็ก ๆ ที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มเซลล์ภูมิคุ้มกันที่จับสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคต่าง ๆ โดย Granuloma ประกอบไปด้วย เซลล์เม็ดเลือดขาว, ฮีสติโอไซต์, แมคโครเฟจ, และเซลล์ขนาดใหญ่ที่มีหลายนิวเคลียส

ฉีดสลายฟิลเลอร์ ทำให้หน้าเหี่ยวหรือไม่?

เนื่องจาก Hyaluronidase เป็นน้ำยาที่ใช้สำหรับสลายสาร Hyaluronic Acid โดยเฉพาะ หากใช้น้ำยาสลายในปริมาณที่เหมาะสม จะไม่ส่งผลต่อ Hyaluronic Acid ธรรมชาติที่อยู่ใต้ผิวหนัง ไม่ทำให้ Hyaluronic Acid บนหน้าหายไป และนอกจากนี้งานวิจัยบางฉบับพบว่าหลังฉีดสลายฟิลเลอร์ไปแล้ว เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเกิดการสร้างคอลลาเจนบางส่วนได้มากขึ้นอีกด้วย

แต่หากใช้น้ำยาสลายฟิลเลอร์ในปริมาณมากจนเกินไป หรือมีการนำไปผสมยาอื่น ๆ และใช้ในทางที่ผิด เช่น การผสมกับเมโสแฟต เป็นสูตรเฉพาะของคลินิกต่าง ๆ อาจทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่นและเกิดการหย่อนคล้อยได้ค่ะ

ยาสลายฟิลเลอร์อันตรายหรือไม่?

ยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase) เป็นน้ำย่อยที่สกัดมาจากสัตว์ อาจทำให้คนไข้ในบางรายเกิดผลข้างเคียงและมีอาการแพ้ได้ เช่น อาการหน้าบวม ตาบวม ปากบวม หอบ หายใจลำบาก หรืออาการแน่นหน้าอก ดังนั้นทางคลินิกควรต้องมีการเทสทุกครั้งก่อนฉีดยาสลายฟิลเลอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคนไข้เกิดอาการแพ้ยาฟิลเลอร์ขณะฉีดหรือแพ้ตามหลัง อาการแพ้ยาสลายฟิลเลอร์ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่
    • อาการแพ้ทันที คือ ปฏิกิริยาภูมิแพ้แบบรุนแรงเฉียบพลัน (Anaphylaxis) มีอันตรายถึงชีวิต ทางคลินิกต้องกู้ชีพฉุกเฉินในทันที
    • อาการแพ้ตามหลัง คือ ไม่ได้แพ้รุนแรงหรือหนักมาก คนไข้สามารถแจ้งทางคลินิกและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อฉีดยาแก้แพ้และทานยาลดบวม อาการก็จะค่อย ๆ ทุเลาลงไปได้
ซึ่งถ้าหากพบว่าคนไข้แพ้ยาสลายฟิลเลอร์แบบรุนแรง คนไข้จะไม่สามารถใช้ยาสลายฟิลเลอร์ได้ จำเป็นต้องใช้การผ่าตัดหรือกรีดเจาะเพื่อนำฟิลเลอร์ออกเท่านั้นค่ะ

ฟิลเลอร์ปลอม สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้ไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย เช่น ไขมันปลาวาฬ ซิลิโคนเหลว และคอลลาเจนเหลว จะไม่สามารถใช้ยาสลายฟิลเลอร์ได้ ต้องใช้วิธีผ่าตัดเพื่อขูดซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว หรือไขมันปลาวาฬออกให้ได้มากที่สุด

แต่ทั้งนี้การผ่าตัดเพื่อขูดสารดังกล่าวเหล่านั้นออก ก็อาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเส้นประสาท ซึ่งจะทำให้เกิดอาการชา หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว หรือทำให้เนื้อส่วนดีบางส่วนแหว่งหายไปได้ จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับการรักษานะคะ

แต่หากคุณทำการฉีดฟิลเลอร์แท้ กับแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐานสามารถสลายได้อย่างแน่นอนค่ะ แต่ถ้าทำการฉีดกับหมอกระเป๋ามา จำเป็นอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ว่าสามารถสลายได้หรือไม่ค่ะ

สลายฟิลเลอร์ได้หมด 100% หรือไม่? ต้องฉีดซ้ำหรือไม่?

ถ้าคุณหมอฉีดยาสลายฟิลเลอร์เข้าชั้นผิวหนังอย่างถูกตำแหน่ง จะสามารถสลายฟิลเลอร์ได้ทั้งหมด 100% ซึ่งในบางกรณีคนไข้ไม่ได้ฉีดสลายฟิลเลอร์กับคุณหมอท่านเดิม คุณหมอท่านใหม่อาจจะไม่ทราบว่าคุณหมอท่านเดิมฉีดฟิลเลอร์ไว้ตรงตำแหน่งไหนบ้างและฉีดในปริมาณเท่าใด อาจทำให้สลายฟิลเลอร์ได้ไม่หมดในครั้งเดียว

แต่ทั้งนี้การฉีดสลายฟิลเลอร์จะออกฤทธิ์เต็มที่ภายใน 1 สัปดาห์ หากคนไข้รู้สึกว่ายังมีฟิลเลอร์ตกค้างอยู่ภายใต้ผิวหนัง สามารถมาฉีดสลายฟิลเลอร์ซ้ำได้อีกรอบ โดยต้องเว้นระยะห่างจากครั้งแรกประมาณ 5-7 วัน

ต้องใช้ยาสลายฟิลเลอร์ปริมาณเท่าไหร่?

โดยทั่วไปแล้ว คุณหมอจะใช้ปริมาณยาสลายฟิลเลอร์ต่อสารฟิลเลอร์ ประมาณ 1:1 หรือ 2:1 แต่ถ้าหากใช้สองเท่าแล้วยังสลายไม่หมด อาจตั้งข้อสงสัยได้เลยว่า สิ่งที่เหลืออยู่ภายใต้ผิวหนังไม่ใช่สารฟิลเลอร์แท้ค่ะ

ข้อมูลที่ต้องแจ้ง ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์

คนไข้จำเป็นที่จะต้องแจ้งข้อมูลให้ทางคลินิกทราบอย่างละเอียด ประกอบไปด้วย สถานที่ที่ฉีด, คุณหมอที่ทำการฉีด, ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ฉีด, ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด, และตำแหน่งที่ฉีด เนื่องจากถ้าคุณหมอทราบข้อมูลเหล่านี้อย่างละเอียดครบถ้วน จะทำให้คุณหมอสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ให้กับคนไข้ได้อย่างตรงจุดมากที่สุดค่ะ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ กี่วันหาย?

หลังการฉีดสลายฟิลเลอร์จะเกิดการยุบตัวลงทันที 10-20% หลังจากนั้น 3 วัน ใบหน้าจะดูยุบที่สุด เพราะตัวยาสลายฟิลเลอร์จะมีการผลักน้ำใต้ผิวออกไปด้วย โดยหลังจากการทำหัตถการประมาณ 5-7 วัน ฟิลเลอร์จะสลายเต็มที่ น้ำกลับมาเติมเต็มใต้ผิวอีกครั้ง ทำให้ผิวอิ่มฟูเหมือนเดิม ซึ่งถ้าหากใครต้องการฉีดสลายและแก้ฟิลเลอร์เพิ่มเติม ควรเผื่อระยะเวลาอย่างน้อย 7 วันค่ะ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ มีผลข้างเคียงหรือไม่?

ผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ คือ อาการแดง ช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไป เนื่องจากเส้นเลือดฝอยเกิดการแตกตัว แต่สามารถหายได้เองภายใน 5-7 วัน ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล

นอกจากนี้อาจมีผลข้างเคียงจากการแพ้ยาเกิดขึ้นได้เช่นกัน เช่น อาการคัน บวมแดงอย่างมาก ซึ่งจำเป็นต้องเข้าพบแพทย์ทันที โดยที่ MICHIKO Clinic จะมีการเทสต์ยาก่อนที่จะทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันอาการแพ้ยาของคนไข้ค่ะ

หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ สามารถฉีดฟิลเลอร์ใหม่ได้เลยหรือไม่?

ไม่ได้ค่ะ คุณจำเป็นต้องรอให้ฟิลเลอร์เก่าสลายออกทั้งหมดก่อนจึงจะทำการฉีดฟิลเลอร์ใหม่ได้ ซึ่งต้องรอประมาณ 5-7 วันหลังการฉีดสลายฟิลเลอร์

ฉีดสลายฟิลเลอร์จุดไหนได้บ้าง?

ฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทุกจุดบริเวณที่มีฟิลเลอร์และต้องการเอาออก แต่จะต้องระวังจุดที่มีภาวะติดเชื้อเป็นพิเศษ โดยต้องรักษาอาการติดเชื้อให้หายดีเสียก่อนจึงจะสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ค่ะ

ฟิลเลอร์ใต้ตา สลายได้ไหม?

สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาได้ เหมือนกับบริเวณอื่น ๆ ค่ะ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่?

ราคาเริ่มต้น 2,500.- ต่อจุด ขึ้นอยู่กับความแน่นของปริมาณและโมเลกุลของฟิลเลอร์เดิมที่ฉีดมา ทั้งนี้ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์ทุกครั้งค่ะ

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนการฉีดสลายฟิลเลอร์

ควรเลือกคลินิกหรือสถานประกอบการพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานปลอดภัย ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ใช้ยาแท้ผ่านอย. สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงแพทย์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญ สามารถดีไซน์การฉีดยาสลายฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการสลายฟิลเลอร์ทั้งหมดหรือสลายเพียงบางส่วน 

นอกจากนี้คุณควรเลือกคุณหมอท่านเดียวกับที่คุณต้องการให้ฉีดฟิลเลอร์แก้ไขจุดเดิม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธิภาพ ตรงจุดมากที่สุด และไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนค่ะ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ที่ไหนดี?

การฉีดสลายฟิลเลอร์ต้องใช้เทคนิคเฉพาะและความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ฉีด เพื่อฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทั้งหมด 100% ซึ่งถ้าหากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ฉีดผิดตำแหน่ง ไม่มีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์นั้นๆมากพอ หรือใช้ยาเยอะเกินไป อาจส่งผลให้คนไข้หน้าเหี่ยวและหย่อนคล้อยได้ อีกทั้งคนไข้ต้องหาคลินิกใหม่เพื่อฉีดสลายฟิลเลอร์อีกรอบ ทำให้เสียเงินซ้ำซ้อนไม่รู้จบ

MICHIKO Clinic นำโดยอาจารย์หมอกิ๊ฟ แพทย์หญิงวิสุทธิยา บุญสม แพทย์เฉพาะทางผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าเทคนิคเฉพาะ “Oriental Lifting Technique” รวมไปถึงยังชำนาญในการฉีดสลายฟิลเลอร์ คุณหมอกิ๊ฟมีประสบการณ์การฉีดสลายฟิลเลอร์มานับไม่ถ้วน พร้อมทั้งให้คำปรึกษาและดีไซน์แก้ไขปรับรูปหน้าหลังฉีดสลายฟิลเลอร์ให้ทุกเคส เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติอย่างยั่งยืนและตรงกับความต้องการของคนไข้มากที่สุดค่ะ

คุณหมอกิ๊ฟ จบการศึกษาเฉพาะทางจาก American Board of Aesthetic Medicine จากประเทศสหรัฐอเมริกา และหลักสูตรผิวหนังและเลเซอร์ผิวหนัง (Diploma Course in Dermatology and Dermatosurgery) จากสถาบันโรคผิวหนังประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยจุนเทนโด ประเทศญี่ปุ่น

คุณหมอกิ๊ฟมีประสบการณ์ด้านความงาม เคยประจำอยู่ที่โรงพยาบาล และคลินิกชั้นนำมามากกว่า 12 ปี ดูแลคนไข้มามากกว่า 10,000 เคส คุณหมอมีความใส่ใจและดูแลคนไข้ทุกคนเป็นอย่างดี คุณหมอตั้งใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ดีที่สุด เพื่อนำเข้ามาใช้ในคลินิกเป็นอย่างมาก ทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ จะต้องได้มาตรฐาน เห็นผลลัพธ์ที่ดี และที่สำคัญคือมีความปลอดภัย

หลักการดูแลคนไข้ที่คุณหมอกิ๊ฟมักจะพูดอยู่เสมอ คือ “หมอตั้งใจดูแลคนไข้ทุกคนให้เหมือนกับที่หมอดูแลตัวเองและคนในครอบครัวที่หมอรัก สิ่งใดที่หมอคิดว่าดีกับตัวเอง คนไข้ของหมอก็จะต้องได้รับสิ่งนั้นเช่นเดียวกันค่ะ”

รีวิวการฉีดสลายฟิลเลอร์ที่ MICHIKO Clinic

ฉีดสลาย filler รีวิว
ฉีดสลาย filler รีวิว
ฉีดสลาย filler รีวิว
ฉีดสลาย filler รีวิว
ฉีดสลาย filler รีวิว
ฉีดสลาย filler รีวิว
ฉีดสลาย filler รีวิว
ฉีดสลาย filler รีวิว
ฉีดสลาย filler รีวิว
ฉีดสลาย filler รีวิว
ฉีดสลาย filler รีวิว