ฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นสิ่งปกติที่คนเอเชียอย่างพวกเราต้องพบเจอ โดยจะเกิดขึ้นภายใต้ชั้นผิวหนังของเรา ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อถึงเวลาที่ผิวหนังของเราไม่สามารถยับยั้งมันได้ ก็จะเริ่มปรากฎออกมาให้เห็นได้ชัดบนใบหน้า ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็อาจจะสายเกินไป หรืออาจจะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูรักษามากกว่าเดิม ซึ่งในปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงอายุที่เป็นปัจจัยทำให้ผิวหนังไม่สามารถยับยั้งจุดด่างดำ ฝ้า และกระต่างๆได้ ยังรวมไปถึงกรรมพันธุ์ ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ และการใช้ชีวิต ที่ส่งผลทำให้สภาพผิวหน้าแก่กว่าอายุจริงอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพอากาศและแดดที่แรงต่อเนื่องทั้งปีของประเทศไทย ที่ส่งผลเสียอย่างมากต่อผิวหน้าของทุกคนที่ต้องออกไปเผชิญแสงแดดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยสิ่งเหล่านี้จะปรากฎขึ้นให้เห็นบนผิวอย่างเห็นได้ชัดในบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อยๆ เช่น ช่วงโหนกแก้ม ยิ่งถ้าคุณต้องทำงานกลางแดดจัด ทำงานกลางแจ้ง และไม่ชอบทาครีมกันแดดแล้วหล่ะก็ ฝ้าและกระจะปรากฎชัดเจนบนใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอกันซึ่งเกิดจากรอยดำจากฝ้า กระ และจุดด่างดำ รอยสิวต่างๆ ต้องใช้เวลานานเพื่อที่จะฟื้นฟูรักษา ซึ่งถ้าหากคุณใช้การแต่งหน้าเพื่อมาปกปิดริ้วรอยต่างๆเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นรองพื้น หรือคอนซิลเลอร์ จะยิ่งทำให้ให้ความถี่ของฝ้า กระ และจุดด่างดำมากขึ้น และยังขยายวงกว้าขึ้นอีกด้วย
อีกทั้งฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆยังเป็นจุดที่เห็นได้ชัดบนใบหน้า สร้างความกังวลให้กับผู้ที่เป็น ซึ่งถ้าหากปล่อยรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำไว้นานๆ ก็จะยิ่งฝังลึกบนผิวหน้า หรือรักษาแล้วก็อาจจะกลับมาเป็นใหม่เมื่อโดนแดดอีกครั้ง โอกาสที่จะลาขาดจากจุดเหล่านี้เป็นไปได้ยาก แต่ในปัจจุบันมีการศึกษาและวิวัฒนาการทางการแพทย์มากมายที่ช่วยแก้ไขปัญหาทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆจางลงได้อย่างรวดเร็ว
สาเหตุของฝ้า กระ และจุดด่างดำ
สาเหตุการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆนั้นมาจากทั้งปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก
ปัจจัยภายใน
เกิดจากกระบวนการตามธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยจะเริ่มขึ้นเมื่อคุณอายุ 25 ปี ไม่สามารถเห็นได้ในทันที แต่ความชราของผิวจะค่อยๆเปลี่ยนแปลง และจะเห็นได้ชัดเมื่อเวลาผ่านไปเป็นสิบๆปี โดยจะเริ่มจากการที่ผิวเริ่มแห้ง เกิดริ้วรอยบางๆ การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ความเครียด และสารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อเซลล์ผิว ทำให้ไขมันใต้ชั้นผิวหนังลดลง ผิวจะเริ่มผลัดเซลล์ผิวช้าลง ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ หน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส ไม่เต่งตึง เพราะร่างกายผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินได้น้อยลง และมีริ้วรอยร่องลึก ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ
ปัจจัยภายนอก
สภาพแวดล้อมที่คุณพบเจอในทุกๆวันก็เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ รวมไปถึงริ้วรอยต่างๆบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นควันบุหรี่ และควันท่อไอเสียจากท้องถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่องใหญ่ที่มลภาวะเยอะ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดริ้วรอยต่างๆบนผิวหน้า รวมไปถึงแดดเมืองไทยที่ทำร้ายผิวของคุณ ซึ่งจากการศึกษาพบว่ากว่า 80% ของฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้านั้นเกิดจากแสงแดด ทำให้ผิวหยาบแห้ง สีผิวไม่สม่ำเสมอ หมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส และขาดความยืดหยุ่น
มากไปกว่านั้นการใช้ชีวิตประจำวันของคุณก็มีส่วนในการทำลายสุขภาพผิวได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อการผลิตคอลลาเจน และอิลาสตินที่ช่วยให้ผิวชุ่มชิ้น จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ
วิธีปกป้องผิวจากฝ้า กระ และจุดด่างดำ
ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆสามารถปกป้องและชะลอการเกิดได้ โดยคุณสามารถทำได้ง่ายๆโดยการรับประทานทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารที่จะทำร้ายผิวเรา เช่น อาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และแอลกอฮอล์ ที่สามารถทำร้ายเซลล์ผิวของเราโดยตรง ซึ่งคุณสามารถหันมาทานผักและผลไม่ที่มีส่วนในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอรี่ จะดีกว่า นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งการออกกำลังกายจะช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณสดใส ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยเรื่องผิวพรรณได้มาก
นอกจากนี้อารมณ์ของคุณก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ส่งผลกระทบต่อสภาพผิว ดังนั้นควรจะทำใจให้สบาย และลดความตึงเครียดออกไป เพราะจะส่งผลทำให้หน้าดูหมอง และสุดท้ายแน่นอนว่า การป้องกันตัวเองจากแสงแดดที่รุนแรงมากของประเทศไทย ซึ่งเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของผิว เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ปกป้องได้ทั้งรังสี UVA และ UVB อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยป้องกันผิวของคุณจากแสงแดดได้อย่างดีเยี่ยม
แต่ถ้าหากรู้สึกว่าไม่ทันแล้ว ฝ้า กระ จุดด่างดำเริ่มปรากฎขึ้นบนใบหน้าแล้ว คุณยังสามารถฟื้นฟูสภาพผิวด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เรียกกันว่า การฉีดเมโส เพือรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ หรือ Meso depigment
ฉีดเมโสเพื่อรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ (Meso Depigment)
เมโส หรือ Mesotherapy เป็นหนึ่งในการรักษาผิวที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการจัดการปัญหาของริ้วรอยยที่มองเห็นได้ ไม่ว่าจะเป็นสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำต่างๆ การฉีดเมโสจะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เป็นการผลักวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ กรดอะมิโน กรดไฮยาลูโรนิก และยาที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) ที่ปรับแต่งมาอย่างเหมาะสมโดยเฉพาะ
ฉีดเมโสเพื่อรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำเห็นผลได้ในกี่วัน?
ตัวยาจะซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ทันที ช่วยลดฝ้า กระ และจุดด่างดำให้ดูจางลงได้อย่างรวดเร็วเมื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วันหลังการฉีด ซึ่งจะเห็นผลได้ไวกว่าการรักษาด้วยการทาครีม
ฉีดเมโสเพื่อรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำควรฉีดซ้ำภายในเวลาเท่าไร?
ควรทำการฉีดซ้ำทุกๆ 1-2 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้สิ่งเหล่านี้จางลง ซึ่งความถี่และจำนวนครั้งในการรักษาจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคน บางคนอาจจะใช้เวลานาน หรือบางคนอาจจะเห็นผลได้รวดเร็ว
ข้อปฏิบัติหลังฉีดเมโสเพื่อรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ
หลังจากการฉีดแล้ว ผิวหนังของคุณอาจจะเกิดรอยแดง หรือรอยช้ำจากเข็มที่ใช้ในการรักษา โดยรอยแดงเหล่านี้จะหายไปหลังจากการรักษาภายใน 3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย โดยหลังจากทำทรีทเม้นท์นั้นควร
- ห้ามล้างหน้าประมาณ 4-6 ชั่วโมงหลังทำทรีทเม้นท์เสร็จ เพื่อให้ผิวดูดซับตัวยาได้มากขึ้น
- ไม่ควรนวดผิวหลังการทำ เพราะตัวยาจะสามารถแพร่กระจายเองได้
- งดออกแดดแรงๆเป็นเวลา 48 ชั่วโมง
- งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
- ใช้ครีมบำรุงที่มีวิตามินผสมได้ แต่ควรงดใช้ครีมจำพวกไวท์เทนนิ่ง
- สามารถประคบเย็นที่รอยแดง รอยช้ำได้ภายใน 48 ชั่วโมงแรก และสามารถประคบอุ่นได้หลังจากนั้น ตามแพทย์แนะนำ
เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีตามที่ต้องการ และความปลอดภัยของคุณ ควรจะต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้ามากที่สุด เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง โดยหลังจากการรักษาควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และดูแลเอาใจใส่ผิวหน้ามากขึ้น เพื่อลดโอกาสการกลับมาของฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ