ความงาม (Aesthetics)

การฉีดฟิลเลอร์

หากคุณเป็นคนที่กำลังสนใจในเรื่อง การฉีดฟิลเลอร์ หรือกำลังวางแผนเพื่อไปฉีดฟิลเลอร์เป็นครั้งแรก เพื่อทำให้ผิวหนังกระชับ เต่งตึง เติมเต็มส่วนที่เป็นร่อง และปรับรูปหน้า

 

วันนี้ทางเราได้เตรียมข้อมูลที่คุณควรทราบสำหรับการฉีดฟิลเลอร์มาอย่างครบถ้วน เพื่อให้คุณพร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มความสวยในแบบที่คุณต้องการมาให้ค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ michiko

ข้อมูลที่ควรรู้สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ :

การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร?

ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าสู่ผิวหนัง โดยสารที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบันทำมาจากกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งสามารถสลายตัวไปได้เองตามธรรมชาติ กรดไฮยาลูโรนิกที่ใช้ทำฟิลเลอร์มีคุณสมบัติใกล้เคียงและพบได้ตามธรรมชาติในผิวหนังของมนุษย์

กรดไฮยาลูโรนิกมีความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้นจึงทำให้ผิวดูอวบอิ่ม ลดริ้วรอย เติมเต็มจุดบกพร่องบนใบหน้าและอวัยวะอื่นๆ และด้วยเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ล๊อคหน้าตึงที่ MICHIKO Clinic ยังสามารถใช้ฟิลเลอร์เพื่อการยกกระชับใบหน้าได้อีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ที่เป็นกรดไฮยาลูโรนิกจะมีลักษณะคล้ายเจลที่ใช้ฉีดได้ทั้งที่ชั้นผิวหนัง ชั้นไขมันชั้นตื้น ชั้นไขมันชั้นลึก และโครงสร้างกระดูก เมื่อฉีดเข้าไปจะสามารถแก้ไขโครงสร้างของใบหน้าที่มีปัญหาได้


หากเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่ถูกต้องและฉีดถูกเทคนิค ฟิลเลอร์จะสามารถเซ็ตตัวเป็นโครงสร้างกระดูก ไขมันชั้นลึก ไขมันชั้นตื้น รวมทั้งกลืนเข้ากับเนื้อเยื่อของผิวหนังได้ดี


นอกจากนั้นกรดไฮยาลูโรนิกในฟิลเลอร์สามารถดึงดูดโมเลกุลของน้ำจนพองขึ้นเป็นเจล ทำให้เนื้อเยื่อรอบข้างชุ่มชื้นขึ้นได้

หากเคยได้ยินมา เมื่อสมัยก่อนฟิลเลอร์มีการทำมาจากสารมากมายหลายประเภท เช่น ซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว ไขมันปลาวาฬ ที่มีความสามารถในการเติมเต็มแบบเดียวกัน

แต่ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมและไม่ผ่านอย. เนื่องจากสารเหล่านั้นไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้เมื่อฉีดเข้าไป จึงส่งผลเสียในระยะยาว ทำให้เกิดใบหน้าห้อยคล้อยตกตามแรงโน้มถ่วง จากการที่มีก้อนหรือสิ่งแปลกปลอมในใบหน้า

ฟิลเลอร์ใช้ทำอะไร?

ฟิลเลอร์ถูกใช้ครั้งแรกในการเติมเต็มทำให้ใบหน้าดูเด็กลง โดยใช้เพื่อเสริมและปรับโครงสร้างของใบหน้า เช่น การเติมคางให้ดูเป็นทรงมนหรือพุ่งรับกับใบหน้า การเติมใต้ตาให้ดูไม่หมองคล้ำ การปรับรูปหน้าผ่านการเติมแก้มให้ดูพุ่งมีมิติ หรือการเติมร่องแก้มให้ดูตื้นขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปทรงริมฝีปาก การเติมขมับและแก้มตอบที่ยุบเว้าให้เติมสวย

 

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ฉีดได้ทั้งหมดกี่จุด

 

นอกจากนี้ด้วยเทคนิคเฉพาะที่ Michiko Clinic ยังสามารถใช้ฟิลเลอร์เทคนิคล็อคหน้าตึงในการยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวสวยพุ่งดังใจนึก เปรียบเสมือนการผ่าตัดดึงหน้าได้เลยค่ะ

ฟิลเลอร์ที่คุณหมอเลือกใช้

พญ.วิสุทธิยา บุญสม (หมอกิ๊ฟ)


ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

ทางคลินิกของเรา คุณหมอกิ๊ฟเลือกใช้

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane จากประเทศสวีเดน และ ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์

 

ข้อดี Restylane

1. เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์แบรนด์แรกในโลก

2. เป็นฟิลเลอร์ที่มีเทคโนโลยีที่มีโครงสร้างโมเลกุล 2 แบบ จึงมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่น ทำให้คุณหมอสามารถเลือกและดีไซน์ฟิลเลอร์ได้เหมาะกับบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้าได้มากที่สุด

3. หลังฉีดใบหน้าบวมช้ำน้อย ฉีดแล้วหน้าไม่บวมฟิลเลอร์

4. เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถใช้แก้ไขความดำใต้ตาได้ดี และอยู่ได้นานเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น

5. ใช้ยาปริมาณน้อย แต่ได้ผลลัพธ์มาก เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น

 

ข้อดี Belotero

1. เป็น Filler ที่มี Cohesevity ดีที่สุด กลืนเข้าเนื้อเยื่อได้ดีมาก ทำให้ไม่เกิดภาวะเป็นก้อนหรือเป็นลำ

2. สามารถใช้แก้ไขในเคสที่มีปัญหาลำใต้ตาจากโครงสร้างกายวิภาคเดิมที่ ลำกล้ามเนื้อใต้ตาทำงานมากเกินไปได้ดีมาก

3. มีปริมาณสาร Hyarulonic acid มากที่สุดเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ในท้องตลาด ทำให้หลังจากฉีดไป ฟิลเลอร์คงทนและอยู่ได้นาน

 

ความแตกต่างที่สำคัญของทั้ง 2 ยี่ห้อ

1. สำหรับยี่ห้อ Botero เนื่องจาก ตัวฟิลเลอร์กลืนเข้าเนื้อเยื่อได้ดีมาก หากเทียบกับยี่ห้อ Restylane จะพบว่าอาจจะจำเป็นต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่าในการแก้ไขปัญหาเดียวกัน

2. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero หลังฉีดมีโอกาสบวมและเมื่อฟิลเลอร์เซ็ตตัว อาจจะยุบตัวสลายได้เร็วกว่า ยี่ห้อ Restylane

 

“เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่สำคัญของหมอกิ๊ฟ”

สิ่งสำคัญ หลัก ๆ คือ

1. การประเมินรูปหน้าให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพและเหมาะสมกับสัดส่วนของอวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้า  (ฉีดแล้วหน้าละมุน สัดส่วนรับและเข้ากันเป็นอย่างดี) จากรูปตัวอย่างเช่น สัดส่วนของ จมูก ปาก คาง ในมุมมองด้านข้าง ต้องตั้งอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน

ตามเส้น E-line รวมถึงมิติความพุ่งของโหนกแก้มจะต้องพุ่งและไม่กว้างจนเกินไป (Oriental Lifting Technique)

2. มีการจัดลำดับความสำคัญของความสวยบนใบหน้า โดยคุณหมอจะช่วยประเมินให้เบื้องต้นก่อนว่าจุดไหนมีความสำคัญ ควรได้รับการปรับแก้ไขก่อน (เทคนิคฉีดน้อยให้ได้ผลลัพธ์มาก)

3. มีการฉีดเพื่อแก้ไขตามโครงสร้างที่เป็นปัญหา ที่ทำให้เกิดภาวะ Aging ของคน ๆ นั้น

 

โดยการแก้ไขเรียงตามลำดับชั้นในส่วนของกระดูก ไขมันชั้นลึก และไขมันชั้นตื้น ทำให้ได้ให้ความสวยกลับคืนมาแบบเป็นธรรมชาติมากที่สุด ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ไม่เป็นลำ คลำไม่ได้ฟิลเลอร์

(เทคนิค Michiko’s Natural look)

ฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคล็อคหน้าตึงที่ Michiko Clinic

การฉีดฟิลเลอร์เทคนิคล็อคหน้าตึงสามารถแก้ไขโครงสร้างที่เป็นปัญหาได้อย่างตรงจุด ทำให้ใบหน้าดูยกกระชับได้ทันทีหลังฉีดโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่เสียเวลาพักฟื้น

ฉีดฟิลเลอร์ล็อคหน้าตึง

ฟิลเลอร์เทคนิคล็อคหน้าตึงที่ MICHIKO Clinic ถูกคิดค้นโดยคุณหมอกิ๊ฟ พญ.วิสุทธิยา บุญสม ที่ใช้เทคนิคเฉพาะในการดีไซน์ปรับรูปหน้าคนให้สวยรับกันกับทุก ๆอวัยวะบนใบหน้า ทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์ไปดูสวยงามเป็นธรรมชาติ จับไม่ได้ก้อน ไม่เป็นลำ  รวมถึงยังสามารถฉีดปรับใบหน้าเพื่อเสริมโหงวเฮ้งได้อีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่?

ข้อแตกต่างระหว่างโบท็อก (Botox) และฟิลเลอร์ (Filler)

ทั้งสองอย่างสามารถใช้เพื่อแก้ไขหรือป้องกันการเสื่อมสภาพของผิวหนังซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เราดูมีริ้วรอยและดูอายุมากขึ้น แต่ฟิลเลอร์กับโบท็อกนั้นทำงานต่างกัน โดยข้อแตกต่างของโบท็อกและฟิลเลอร์มีดังนี้

 

ฟิลเลอร์ จะถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มร่องลึก เพิ่มความเต่งตึงของผิวหนัง

 

โบท็อก (ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของ Botulinum Toxin) จะทำหน้าที่ตรงกันข้ามในการช่วยคลายกล้ามเนื้อ ปิดกั้นสัญญาณประสาทในกล้ามเนื้อเป็นการชั่วคราว เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวและรักษาริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ บริเวณ หน้าผาก รอยตีนกา รอบดวงตา ปาก และอื่นๆ

ฟิลเลอร์ใช้ฉีดบริเวณใดได้บ้าง?

ฟิลเลอร์เป็นสารคล้ายเจลที่ฉีดเข้าไปในส่วนต่าง ๆ ของผิวหนัง โดยความลึกของการฉีดและความสม่ำเสมอของการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ที่จะได้รับ

สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งในร่างกาย เช่น หน้า ฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเติมแก้ม ฉีดฟิลเลอร์ปาก ฉีดฟิลเลอร์ที่ขมับ หน้าผาก และจมูก

โดยการฉีดฟิลเลอร์ระดับลึกจะช่วยปรับโครงสร้างของใบหน้า การฉีดด้วยความลึกระดับกลางจะลดรอยย่นบนใบหน้า และการฉีดผิวเผินเข้าไปในผิวหนังชั้นหนังแท้ด้วยฟิลเลอร์ที่อ่อนนุ่มนั้นจะช่วยให้ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น เต่งตึง และให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง โดยนิยมใช้เข็มปลายทู่ หรือ Blunt Cannula มีขนาดเล็กกว่าไส้ปากกา ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ไม่คมบาดเนื้อและไม่แทงทะลุเส้นเลือด ซึ่งเหมาะกับการเดินยาบริเวณที่มีเส้นเลือดเยอะ เช่น ใบหน้า ใต้ตา แก้ม รอยกราม ริมฝีปาก และอื่น ๆ

ผลลัพธ์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์

ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและตำแหน่งที่ทำการรักษา เป็นเรื่องปกติที่จะมีอาการบวมและอาจถึงขั้นมีรอยฟกช้ำได้ประมาณ 2-3 วัน หลังจากมีการเติมฟิลเลอร์บนใบหน้า


แต่โดยทั่วไปเราจะสามารถเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนของบริเวณที่ทำการรักษาได้ในทันที และฟิลเลอร์ที่ฉีดไปจะเซ็ตตัวสวยเต็มโดยอาจใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์ถึงหนึ่งเดือน


สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องใช้เวลาปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณหมอสามารถเข้าใจความต้องการและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและไม่เสียเงินซ้ำซ้อนสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์

ฟิลเลอร์ประเภทไหนดีที่สุด?

อย่างที่ทราบกันว่าฟิลเลอร์นั้นมีหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับบริเวณที่จะทำการรักษา โดยมีฟิลเลอร์ที่ใช้กันทั่วไป และเป็นที่รู้จัก เช่น ยี่ห้อ Juvederm, Belotero และ Restylane

 

ผู้ฉีดสามารถสอบถามคุณหมอผู้ทำการรักษาเกี่ยวกับประเภทรุ่นของฟิลเลอร์เพื่อการรักษาที่เหมาะสมที่สุด โดยคุณหมอจะทำการให้ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจคุณสมบัติทางกายภาพของแต่ละรุ่นฟิลเลอร์ รวมถึงความเหมาะสมของชนิดและรุ่นของฟิลเลอร์กับบริเวณที่ทำการรักษา

 

ตัวอย่างเช่น หากต้องการเสริมคางแบบไม่ศัลยกรรม คุณหมอจะแนะนำและเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลหนักสามารถจัดโครงสร้างและปั้นขึ้นทรงได้ ในขณะที่การใช้ฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มริมฝีปาก คุณหมอก็อาจเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่โมเลกุลเบาลงและมีความกลืนเป็นธรรมชาติ เพื่อให้รู้สึกนิ่มนวลมากขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์มีความเสี่ยงหรือไม่?

เนื่องจากกรดไฮยาลูโรนิกเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในผิวหนังของมนุษย์ ร่างกายของเราจึงยอมรับว่า เป็นสารธรรมชาติ จึงจัดว่าค่อนข้างปลอดภัย ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า การใช้ในระยะยาวนั้นจะก่อให้เกิดความเสียหายได้


แต่อาจมีผลข้างเคียงกับผู้ใช้บางรายที่อาจมีอาการแพ้จากการที่โมเลกุลของฟิลเลอร์บางชนิดไปทำปฏิกิริยากับยาหรืออาหารบางประเภท ซึ่งโอกาสที่พบได้น้อยมาก

การฉีดฟิลเลอร์สามารถแก้อะไรได้บ้างบนใบหน้า?

เราสามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อ แก้หน้าผาก ขมับ ใต้ตา ตาลึก ตาโบ๋ ตาคล้ำ ยิ้มเห็นลำกล้ามเนื้อตา ฉีดแก้หน้าแก้มหัก แก้แก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก คาง และริมฝีปาก ได้เป็นต้น

ในการปรับรูปหน้าสามารถใช้ฟิลเลอร์อะไรฉีดเพื่อแก้ไข?

ฟิลเลอร์ โบท็อก ร้อยไหม สลายไขมัน ตัวอย่างเช่น รู้สึกหน้ากลม คางสั้น ก็สามารถปรับรูปหน้าได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง ก็จะทำให้หน้าเรียวและหน้าวีขึ้น

 

บางคนรู้สึกหน้าบานกรามโต ก็สามารถฉีดโบท็อกกรามเพื่อลดเหลี่ยม ลดมุม ลดความบานของหน้าได้ บางคนแก้มเยอะมีแก้มยุ้ย ๆ อันนี้ก็ใช้ยาฉีดสลายไขมัน ทำให้ไขมันแก้มหายไปได้

ใครบ้างที่เหมาะกับการใช้ฟิลเลอร์ในการปรับรูปหน้า?

ถ้าคน ๆ นั้น มีปัญหาของใบหน้าที่เกิดจากโครงกระดูกทรุดตัว ประกอบกับไขมันชั้นลึกและชั้นตื้นมีการยุบหายไป คนนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าแก้ไข การร้อยไหม โบท็อก หรือสลายไขมัน หรือแม้กระทั่งเครื่องยกกระชับ จำพวกไฮฟู เทอร์มาจ หรืออัลเทอร่า ก็จะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด

ตัวอย่างรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าค่ะ >>

แนะนำการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าอย่างละเอียด >>

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ปลอดภัย หากเป็นการฉีดโดยหมอที่มีประสบการณ์มากเพียงพอ เนื่องจากในการฉีดจะต้องอาศัยความรู้ในเรื่องโครงสร้างกายวิภาค (Anatomy) ของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดและเส้นประสาทต่าง ๆ โครงสร้างชั้นกระดูก กล้ามเนื้อ ไขมันชั้นลึกและชั้นตื้น

ดังนั้นหากฉีดไม่ถูกชั้น หรือแพทย์ผู้ฉีดไม่รู้จักผลิตภัณฑ์ที่ฉีดอย่างดีพอ จะทำให้เกิดอันตรายเกิดเส้นเลือดอุดตัน เนื้อเน่า เนื้อตาย หรือเกิดปัญหาฉีดแล้วเป็นก้อนเป็นลำได้  

การฉีดฟิลเลอร์ทำไมถึงมีราคาที่สูง?

  • เนื่องจากฟิลเลอร์ เป็นสารที่มีโครงสร้างโมเลกุลใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด และฟิลเลอร์จะต้องผ่านกระบวนการคิดค้น วิจัย พัฒนาและผลิตมาเป็นระยะเวลายาวนาน กว่าจะได้โครงสร้างของโมเลกุลในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้สามารถนำมาฉีดในจุดต่างๆบนใบหน้าได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรมชาติ
  • การฉีดฟิลเลอร์เป็นงานศิลปะของการปรับรูปหน้าขั้นสูง ที่แพทย์ผู้ฉีดจะต้องอาศัยประสบการณ์และการเรียนรู้โครงสร้างทางกายวิภาคของใบหน้าเพื่อมาแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด แม้ผลิตภัณฑ์จะเป็นชนิดเดียวกันแต่เมื่อผู้ฉีดเป็นคนละคน การออกแบบรูปทรงใบหน้าก็ย่อมแตกต่างกัน เปรียบเหมือนศิลปินที่วาดรูปออกมาในสไตล์ที่แตกต่างกัน

เคยได้ยินว่ามีการฉีดฟิลเลอร์แก้ใต้ตาคล้ำได้โดยไม่ต้องใช้ฟิลเลอร์?

อันที่จริงก็มีวิธีการแก้ใต้ตาคล้ำได้โดยไม่ต้องใช้ฟิลเลอร์ คือ หลาย ๆ คนรู้จักกัน ว่าเป็นการฉีด Filorga หรือ Cytocare พวกนี้คือตัวที่มีส่วนประกอบเหมือนกับฟิลเลอร์ คือมีสาร Hyaluronic acid แต่เป็นชนิดที่ไม่มีการสานโมเลกุลให้เป็นร่างแห ดังนั้นหลังฉีดจะอยู่ได้สั้น ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ ดังนั้นจึงต้องมีการฉีดซ้ำหลายครั้ง ที่เราเห็นทั่ว ๆ ไป คือเขามักจะขายเป็นคอร์ส 5 ครั้ง 10 ครั้ง แล้วทำไมไม่ฉีดฟิลเลอร์แก้ใต้ตาคล้ำด้วยฟิลเลอร์ไปเลย ฉีดครั้งเดียวอยู่ได้นานเป็นปี จบกว่านะ

กลัวว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วจะเป็นก้อน

หากหมอผู้ฉีดเลือกรุ่นของฟิลเลอร์ได้เหมาะสมกับปัญหาของใบหน้า ร่วมกับอาศัยประสบการณ์และความรู้ทางกายวิภาคของใบหน้าอย่างถูกต้องแล้ว ปัญหาเป็นก้อนเป็นลำ ฉีดแล้วไม่เนียนย่อมไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าราคาแพง ไปผ่าตัดดึงหน้าคุ้มกว่าไหม?

การผ่าตัดดึงหน้า หน้าตึงขึ้นจริงเพราะมีการดึงหนังมาเย็บไว้ แต่เนื้อข้างในก็ยังกลวงอยู่ดี ซึ่งหน้าจะยกคนละแบบกับการฉีดฟิลเลอร์ คนที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อการยกกระชับนั้นจะได้หน้าที่เปล่งปลั่ง เต่งตึง มีน้ำมีนวลและเป็นธรรมชาติ เหมือนวัยเด็กอีกครั้ง

ฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วจะตกค้าง แก้มจะห้อยย้อย คางกลายเป็นแม่มดไหม?

ปัจจุบันฟิลเลอร์เป็นสารที่สลายตัวได้ตามธรรมชาติ สามารถคงสภาพอยู่บนใบหน้าได้นาน 1-2 ปี โดยจะค่อย ๆ สลายตัวไป โดยอาศัยน้ำย่อยในร่างกายของเรา ดังนั้นฟิลเลอร์แท้ที่ฉีดโดยแพทย์ไม่ตกค้าง แต่ถ้าฉีดโดยหมอกระเป๋า หรือสมัยก่อนที่มีการเอาซิลิโคนเหลว หรือคอลลาเจนเหลวมาฉีด อันนี้ตกค้างแน่นอน

คนที่ทำซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว ไขมันปลาวาฬ สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้หรือไม่?

หากคุณเคยฉีดสารที่ไม่สามารถสลายตัวได้โดยธรรมชาติลงบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น ซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว หรือไขมันปลาวาฬ คุณสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ แต่ไม่ควรทำการฉีดฟิลเลอร์ทับลงไปในบริเวณนั้น ๆ

 

เหตุผลที่ไม่ควรทำการฉีดฟิลเลอร์ทับลงไปในบริเวณที่เคยฉีดสารที่ไม่สามารถสลายตัวได้นั้น เป็นเพราะซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว หรือไขมันปลาวาฬ เป็นสิ่งแปลกปลอมที่สามารถกักเก็บเชื้อโรคไว้ภายในตัวเองได้ หากทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปทับในจุดเดิม เข็มของฟิลเลอร์ใหม่อาจจะทำให้เชื้อโรคต่างๆ ที่ถูกกักเก็บไว้อยู่ภายในแตกออกหรือปะทุออกมา แพร่กระจาย และทำให้คนไข้เกิดอาการติดเชื้อ บวมแดง อักเสบ และแสบร้อนได้

 

โดยวิธีการแก้ไขสำหรับผู้ที่เคยฉีดสารที่ไม่สามารถสลายตัวได้ ดังเช่น ซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว หรือไขมันปลาวาฬ แต่ต้องการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้น แพทย์จะแนะนำให้ทำการผ่าตัด ขูดซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว หรือไขมันปลาวาฬออกก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

 

แต่ทั้งนี้ การผ่าตัดเพื่อขูดสารดังกล่าวเหล่านั้นออก ก็อาจจะมีเสี่ยงต่อเส้นประสาท ซึ่งจะทำให้เกิดอาการชา หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว หรือทำให้เนื้อบางส่วนแหว่งหายไปได้ จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจนะคะ

 

คนที่เคยเติมซิลิโคนบริเวณคาง แล้วต้องการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า ก็จะต้องการไปผ่าตัดเอาซิลิโคนออกก่อนเช่นเกียวกันนะคะ ซึ่งการผ่าตัดจะไม่อันตรายเท่าการผ่าตัดขูดซิลิโคนเหลวเพราะแพทย์ไม่จำเป็นต้องขูดเนื้อดีออกไปด้วย

 

ส่วนคนที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้วแต่ไม่ชอบ รู้สึกว่าคางแหลมเกินไปหรือคางย้อยเหมือนแม่มด ไม่ต้องผ่าตัด เพียงฉีดสลายฟิลเลอร์ออกครบ 7 วัน ก็สามารถให้แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ให้ใหม่ ดีไซน์ให้สวยขึ้นรับกับใบหน้าได้ทันทีค่ะ

สรุป

โดยปกติฟิลเลอร์อาจจะต้องใช้เวลาถึงสองสัปดาห์ถึงหนึ่งเดือนกว่าจะเซ็ตตัวเข้าที่ โดยทั่วไปคุณหมอจะมีการนัดติดตามผลหลังทำการรักษาไป


ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์นี้เราสามารถฉีดสลาย แก้ไขหรือปรับตกแต่งได้อยู่ตลอดเวลา และฟิลเลอร์ที่เป็นกรดไฮยาลูโรนิกจะถูกย่อยสลายได้โดยน้ำย่อยที่มีอยู่ในผิวหนังตามธรรมชาติ ซึ่งโดยเฉลี่ยกระบวนการการย่อยสลายนี้จะใช้เวลาตั้งแต่ 6 ถึง 24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้และบริเวณที่ทำการรักษา


โดยบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เช่น คาง ขมับมักจะอยู่ได้นานกว่า ในขณะที่บริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมาก เช่น ริมฝีปาก ร่องแก้ม ใต้ตา มักจะอยู่ได้ในระยะเวลาที่สั้นลง

Customers are lovin' it