สิ่งที่ควรรู้ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
ขมับตอบ ขมับยุบ ขมับลึก เกิดจากอะไร?
ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ขมับลึก สามารถพบได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น รูปหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปตามกระดูกที่ยุบตัวและไขมันบริเวณขมับที่ฝ่อตัวลง สังเกตได้จากโหนกแก้มหรือโหนกคิ้วที่จะดูเด่นชัดขึ้น ทำให้ภาพรวมของใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส และดูแก่กว่าวัย
นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ขมับลึก ดังนี้
-
- โครงสร้างกระดูกตามกำเนิด เกิดจากกระดูกบริเวณขมับไม่หนาตัว มีความบางกว่าอวัยวะส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า ทำให้โครงหน้าดูเว้า เป็นแอ่งลึกลงไป และขมับดูตอบ ใบหน้าไม่สมดุล

-
- อายุมากขึ้น (Aging) กระดูกเกิดการยุบหรือฝ่อตัวลง (Bone Loss) ผิวหนังบาง (Thin Skin) และห้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วง รวมถึง ไขมันบริเวณขมับ (Temporal Fat Patch) หายตัว ตามช่วงวัยที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ รูปหน้าเกิดความผิดรูปไม่สมส่วน เห็นบริเวณขมับดูตอบหรือบุ๋มมากเกินไป
- น้ำหนักตัวลดลง (Weight Loss) หรือผอมลง ทำให้ไขมันบริเวณขมับและเนื้อบนใบหน้ายุบหายไปด้วย เมื่อขมับยุบตัว จึงดูเมื่อมีอายุและทำให้ใบหน้าดูโทรมขึ้นได้
ฉีดฟิลเลอร์ขมับคืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ขมับ คือการนำสาร Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่ใกล้เคียงกับผิวหนังของมนุษย์มากที่สุด ฉีดเข้าไปเพื่อปรับแก้ไขบริเวณตำแหน่งของขมับ โดยสาร Hyaluronic Acid จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถเสื่อมสลายได้ไปเองตามธรรมชาติ ใช้ระยะเวลา 6 เดือนถึง 24 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่นและโมเลกุลของฟิลเลอร์ค่ะ
โดยทางทีมแพทย์ของ MICHIKO Clinic จะใช้เทคนิคการวิเคราะห์ลักษณะใบหน้าของคนไข้อย่างละเอียด พร้อมทั้งหาสาเหตุหลักที่ทำให้ขมับยุบ ขมับลึก ขมับตอบ เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยถ้าหากฉีดฟิลเลอร์ด้วยยี่ห้อที่ได้รับมาตรฐานและแพทย์มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคฉีดโดยเฉพาะ การฉีดฟิลเลอร์ขมับนอกจากจะเป็นการเติมเต็มบริเวณขมับให้ดูสวยงามขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการดึงบริเวณช่วงหน้าแก้มและด้านข้างของแก้มจนทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้นได้อีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ มีแบบไหนบ้าง?
ฉีดฟิลเลอร์ขมับแบบ Basic
คือการใช้เข็มฉีดยาทั่วไปแบบแหลม ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในตำแน่งชิดกระดูกกระโหลกศรีษะ เข้าสู่บริเวณจุด Safety (Suggested injection zone ตามในรูปด้านล่าง) ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นจุดที่เส้นเลือดวางอยู่ในชั้นตื้น ไม่ลึกทำให้มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้ Anatomy ของแต่ละคนก็มีการวางตัวของเส้นเลือดที่แตกต่างกันได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์กายวิภาคใบหน้าอย่างแม่นยำของแพทย์ผู้ฉีดด้วย

โดยก่อนการฉีดฟิลเลอร์ขมับแบบเบสิกที่ MICHIKO Clinic นั้น คุณหมอกิ๊ฟจะทำการคลำจุด Landmark ที่สำคัญคือ Temporal crease ตามแนวบริเวณขมับก่อน จากนั้นจะลองใช้เข็มจิ้มเข้าไปแล้วลองดึงดูว่ามีการดูดได้เลือดหรือไม่ เรียกว่าเทคนิค Draw back เพื่อตรวจสอบว่าไม่ได้มีการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด เพราะความปลอดภัยของคนไข้ต้องมาเป็นอันดับแรก !

ถ้าหากตรวจสอบแล้วว่าสามารถฉีดฟิลเลอร์เข้าไปได้ คุณหมอกิ๊ฟจะทำการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค Small Bolus ด้วยการดันเข็มแหลมทิ่มไปตรง ๆ แล้วฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณ 0.2-0.3 ซีซี พร้อมนวดเบา ๆ 1 ครั้ง จากนั้นค่อย ๆ ดึงเข็มออกมา แล้วทำอีกครั้งหนึ่งด้วย การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณ 0.1 ซีซี พร้อมนวดเบา ๆ ต้องระวังไม่ฉีดอัดไปทีเดียว มิเช่นนั้นฟิลเลอร์จะเป็นก้อน ดูไม่เป็นธรรมชาติ
โดยผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ขมับขั้นธรรมดาก็จะได้ทั้งการเติมเต็มและยกกระชับตรงบริเวณใบหน้าส่วนบนและส่วนกลางขึ้นเล็กน้อย (Upper face & Mid-face) ซึ่งเทคนิคดังกล่าวยังสามารถฉีดเพื่อลิฟติ้งยกหางตาและคิ้วได้อีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ขมับแบบ Advance
คือการใช้เข็มทู่ฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่บริเวณที่เข็มแหลมไม่สามารถฉีดได้ เนื่องจากเส้นเลือดมีการวางตัวลึก ทำให้ไม่สามารถฉีดติดกระดูกหรือชั้นไขมันได้ ต้องอาศัยการฉีดตื้นใต้ชั้น Fascia หรือพังผืดคลุมกล้ามเนื้อ โดยการฉีดในชั้นนี้จะทำให้สามารถยกหรือลิฟติ้งชั้น SMAS ขึ้นมาได้อีกด้วย เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ในชั้นนี้ได้ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ผู้ฉีดเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งต้องเลือกโมเลกุลของฟิลเลอร์ที่ดี ที่สามารถฉีดในจุดที่ขยับหน้าและกลืนเข้าใบหน้าได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างยี่ห้อ Restylane Volyme ที่จะสามารถแก้ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ช่วยให้ใบหน้าดูสมส่วนและละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ขมับแบบ Advance คือสามารถปรับความโค้งเว้าของขมับที่ยุบตัวหายได้ไปเป็นดี อีกทั้งยังช่วยดึงส่วนด้านข้างของแก้ม (Lateral cheek) ให้ยกกระชับขึ้นได้อีกด้วย
ข้อควรระวังสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ขมับแบบ Advance แพทย์บางคนอาจใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์แบบ Bolus หรือการฉีดทีละปริมาณมาก ๆ โดยไม่เกลี่ยฟิลเลอร์ให้เท่ากัน ก็จะทำให้บริเวณขมับดูเป็นก้อน เป็นคลื่น ดูไม่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ขมับแบบ Basic ที่ใช้เข็มปลายแหลมทั่วไป หากฉีดเข้าไปในปริมาณมากๆต่อจุด อาจส่งผลให้คนไข้รู้สึกปวดหัวมากกว่าปกติ และปวดหัวนานติดต่อกันหลายวันได้อีกด้วย

ฟิลเลอร์ขมับ เลือกใช้ฟิลเลอร์ตัวไหนดี ?
การฉีดฟิลเลอร์ด้วยเข็มแหลม
ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลค่อนข้างหนักและแข็ง แต่สามารถเกลี่ยและกลืนเข้าผิวได้ง่าย เพื่อสามารถเติมเต็ม ลิฟติ้งและช่วยยกกระชับใบหน้าส่วนบนขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น Restylane Lyft, Restylane Defyne, Belotero Intense, Belotero Volume, Hyabell Ultra, Hyabell Deep, Yvoire Contour, Flore Max, หรือ Flore Max 1400 ทั้งนี้รุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ขึ้นกับผิวหน้าและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคนที่แตกต่างกัน

การฉีดฟิลเลอร์ด้วยเข็มทู่
ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่กลืนผิวได้ค่อนข้างดี เพื่อช่วยให้ขมับไม่เป็นคลื่นและช่วยดึงส่วนด้านข้างของแก้ม (Lateral cheek) ให้ยกกระชับขึ้นได้อีกด้วย ทางเราขอแนะนำให้เลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane Volyme ซึ่งเป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีคุณสมบัติกลืนเข้าผิวได้ดี เนียน ละมุน และเป็นธรรมชาติที่สุดเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ทุกตัวในตลาด ช่วยเติมเต็มชั้นผิวให้ใบหน้าอิ่มฟูและดูละมุนมากขึ้น เหมาะสำหรับฉีดบริเวณ หน้าแก้ม ขมับ แก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องพับใต้คาง เป็นต้น

ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เหมาะกับใคร
-
- ผู้ที่มีปัญหาขมับยุบตัว ขมับตอบ ใบหน้าดูโทรม
- ผู้ที่มีรูปร่างผอมเกินไป โหนกแก้มดูใหญ่
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่ละมุน ไม่อ่อนหวาน
- ผู้ที่มีปัญหาแก้มด้านข้างยุบลง
- ผู้ที่ลดน้ำหนัก และไขมันบนหน้าหาย ขมับยุบตัว
คุณสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ว่าตัวเองมีปัญหาขมับยุบตัวหรือไม่ จากการดูใบหน้าโดยรวม หากดูแล้วรู้สึกว่าใบหน้าดูไม่ละมุน โหนกแก้มดูใหญ่โดดเด่นขึ้นมามากกว่าปกติ แสดงว่าคุณมีอวัยวะบนใบหน้ารอบ ๆ โหนกแก้มมีจุดยุบตัว ไม่ว่าจะเป็นด้านบนหรือด้านล่างของบริเวณโหนกแก้ม จึงทำให้โหนกแก้มโดดเด่นขึ้นมา
หากสังเกตแล้วรู้สึกว่าบริเวณเหนือโหนกแก้มดูยุบตัว อาจเป็นเพราะขมับยุบตัว การแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่ขมับก็จะช่วยให้โหนกแก้มดูกลมกลืนเข้ากับใบหน้าได้มากยิ่งขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเล็กลงนั่นเองค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยทำให้ขมับดูอิ่มฟูและเต่งตึงขึ้น โหนกแก้มดูกลมกลืนเข้ากับใบหน้ามากยิ่งขึ้น ดูเล็กลง และทำให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยลดความหย่อนคล้อยบริเวณ Mid-face โดยการยกกระชับใบหน้าส่วนบนอย่างบริเวณคิ้ว หางตา เปลือกตา และข้างแก้มขึ้นไปด้วย

ฟิลเลอร์ขมับอันตรายไหม? ฉีดแบบใดถึงปลอดภัย?
การฉีดฟิลเลอร์ขมับถือว่าเป็นจุดที่อันตราย เนื่องจากมีจุดรวมของเส้นเลือดและเส้นประสาทอยู่ค่อนข้างเยอะ หากแพทย์ผู้ฉีดไม่รู้จักโครงสร้างกายวิภาคของใบหน้าอย่างเพียงพอ อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์ผิดพลาดเข้าเส้นเลือด และส่งผลให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือด เกิดเนื้อตาย เนื้อเน่า และตาบอดได้
ซึ่งอาการอันตรายเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากคุณเลือกฟิลเลอร์ฉีดกับแพทย์ผู้ฉีดมีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องและแม่นยำ โดยที่ MICHIKO Clinic นั้น คุณหมอกิ๊ฟจะเริ่มต้นด้วยทำการลองใช้เข็มจิ้มเข้าไป และดึงกลับมา หรือที่เรียกว่าเทคนิค Draw back เพื่อตรวจสอบว่า จะไม่การฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด มั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อคนไข้อย่างแน่นอน
โดยทั่วไปหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ คุณหมอกิ๊ฟจะทำการทดสอบด้วยการใช้นิ้วกดลงไปที่บริเวณฉีดฟิลเลอร์ว่าเลือดไหลเวียนกลับมาเป็นปกติหรือไม่ หากหลังจากยกนิ้วขึ้นแล้วผิวหนังมีสีซีดเลือดไม่มีการไหลย้อนกลับมาภายใน 2 วินาที แสดงว่าเข้าข่ายฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด และทำให้เนื้อตายได้ ดังนั้นต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องทำ Skin test ยาสลายฟิลเลอร์ที่ท้องแขนก่อน เพราะถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉิน
แต่ถ้าหากเป็นการสลายฟิลเลอร์ในภาวะที่ไม่รีบด่วน คุณหมอจะมีการทำ Skin test น้ำยาสลายฟิลเลอร์ที่ท้องแขนก่อน เพื่อทดสอบว่าคนไข้แพ้ยาหรือไม่ โดยทุกขั้นตอนจะเป็นไปตามแนวทางการรักษาของ Michiko Clinic
ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์นั้นจึงต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากฉีดด้วยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับโครงสร้างกายวิภาคบนใบหน้าโดยเฉพาะ มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง จะทำให้การฉีดฟิลเลอร์ขมับนั้นเป็นเรื่องที่ปลอดภัยอย่างยิ่งค่ะ
ฟิลเลอร์ขมับ และเติมไขมันขมับ ต่างกันอย่างไร?
การฉีดไขมัน คือการฉีดเติมเต็มไขมันเข้าไปยังชั้นไขมันที่บริเวณขมับ จะช่วยทำให้บริเวณขมับดูเต็มและอิ่มฟู แต่ใบหน้าจะดูไม่มีมิติ เนื่องจากการฉีดเติมไขมันจะไม่มีส่วนช่วยในการยกกระชับใบหน้า และถ้าหากฉีดไขมันเข้าไปมากเกินไป ก็อาจทำให้ขมับดูเป็นก้อน และดูไม่เป็นธรรมชาติอีกด้วย
ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ขมับนั้น จะเป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่บริเวณพังผืดคลุมกล้ามเนื้อ จึงช่วยทำให้ขมับดูอิ่มฟู และใบหน้าดูมีมิติ เนื่องจากใบหน้าส่วนบนได้รับการยกกระชับเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้โหนกแก้มดูเล็กลงและกลมกลืนเข้ากับใบหน้าได้มากยิ่งขึ้น ใบหน้าจะดูอ่อนหวานขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์ยังมีระยะเวลาการสลายตัวคงที่กว่าการฉีดไขมันอีกด้วยค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ขมับแล้วปวดหัว บวม ต้องทำอย่างไร?
- ปวดหัว ปวดขมับ หรือเกิดอาการขมับบวมติดต่อกันหลายวันจนเป็นสัปดาห์ อาจมีสาเหตุมาจากการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค Bolus ที่ใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณมากเกินไป หรือแพทย์มีความเชี่ยวชาญในการฉีดไม่มากเพียงพอ จนทำให้ไม่สามารถควบคุมปริมาณของฟิลเลอร์ที่ฉีดไปได้
โดยวิธีการดูแลเบื้องต้นคือ สามารถรับประทานยาตามอาการได้ หากมีอาการปวดหัวให้รับประทานยาลดแก้ปวด ประคบเย็นบริเวณที่บวม หรือนวดคลึงเบา ๆ บริเวณที่ฉีดได้ แต่ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาในทันทีค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ขมับแล้วนอนตะแคงได้หรือไม่?
สามารถนอนตะแคงได้เลยค่ะ ไม่มีผลกระทบใดๆ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และดูแลตัวเองเหมือนการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปค่ะ
เตรียมตัวก่อนไปฉีดฟิลเลอร์ขมับต้องทำอย่างไร?

อย่างที่ทราบกันดีว่า การฉีดฟิลเลอร์นั้นปลอดภัย และไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวมากเป็นพิเศษ เพียงแต่ก่อนการฉีดทุกครั้ง คุณจำเป็นต้องรับคำปรึกษา วิเคราะห์ใบหน้าจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ต้องตามต้องการของคุณที่สุดค่ะ
โดยสิ่งที่คุณควรทำก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ มีดังนี้
-
- งดยาและวิตามินต่างๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนมาทำหัตถการเพื่อลดภาวะเลือดออกแล้วหยุดยาก รวมถึงลดอาการบวมช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วย
- ควรงดยาแก้ปวด ยาแอสไพริน หรือ NSIADs เช่น Ibruprofen, Diclofenac, Ponstan และควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยานั้นๆ
- ควรงดวิตามินจำพวกเพิ่มการไหลเวียนของเลือด วิตามินที่ละลายในไขมันต่างๆ รวมถึงวิตามินที่อยู่ในเม็ด Soft gel และกลุ่มสมุนไพรต่างๆ เช่น Grape seed, Gingko biloba, Evening primrose oil, Fish oil, Vitamin E, Collagen เป็นต้น
- ต้องไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง หรือหากมีโรคประจำตัวจะต้องแจ้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการทำหัตถการทุกครั้ง โดยผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง ควรรับประทานยาก่อนมาทำหัตถการ เป็นต้น
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมงก่อนการทำหัตถการ
- งดยาและวิตามินต่างๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนมาทำหัตถการเพื่อลดภาวะเลือดออกแล้วหยุดยาก รวมถึงลดอาการบวมช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วย
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?

สิ่งที่ควรปฏิบัติตัวหลังการฉีดฟิลเลอร์ขมับ มีดังนี้
-
- อาการบวม เขียว ช้ำ อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะค่อยๆดีขึ้น หลังจากการฉีดไป 3 วัน หากอาการดังกล่าวมีมากขึ้นให้ทำการติดต่อคลินิกโดยทันที
- ประคบเย็นเพื่อลดอาหารบวมช้ำใน 48 ชั่วโมงแรกหลังการทำหัตถการ
- ระมัดระวังการกระทบกระแทก การเคลื่อนไหว และการขยับใบหน้าแรง ๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- งดนวดหน้า ขัดหน้า ทำทรีทเม้นท์ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- นวดคลึงเบา ๆ หลังฉีดได้ ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ฉีด
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การทำเลเซอร์ใบหน้า การอบไอน้ำ อบซาวน่า แช่ออนเซ็น เป็นเวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ ไวน์ ของดิบ ของหมักดอง ปลาร้า 2 สัปดาห์ (หากทำไม่ได้ ควรงดอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังการทำหัตถการ)
ฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ไหนดี?
เนื่องจากบริเวณขมับ มีเส้นเลือดสำคัญทับซ้อนกันอยู่มากมาย หากแพทย์ผู้ฉีดไม่รู้จักโครงสร้างกายวิภาคของใบหน้าอย่างดีเพียงพอ อาจเกิดการฉีดผิดพลาดเข้าเส้นเลือด และส่งผลให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดได้ ทำให้เกิดเนื้อตาย เนื้อเน่า หรือเนื้อติดเชื้อได้ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
สิ่งที่สำคัญที่สุด ควรเลือกคลินิกหรือสถานประกอบการพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานปลอดภัย ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีแพทย์ที่มีประสบการณ์มีความชำนาญและใช้ฟิลเลอร์แท้ผ่านอย.ที่สามารถตรวจสอบได้
MICHIKO Clinic นำโดยคุณหมอกิ๊ฟ แพทย์หญิงวิสุทธิยา บุญสม แพทย์เฉพาะทางผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าเทคนิคเฉพาะ “Oriental Lifting Technique” ในทุกเคสคุณหมอกิ๊ฟจะสอบถามความกังวล และวิเคราะห์ปัญหาของรูปหน้า มองภาพรวมของใบหน้า ดีไซน์แก้ไขโดยเน้นการปรับรูปหน้าที่ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ และแก้ไขปัญหาในระดับโครงสร้างของใบหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน และตรงกับความต้องการของคนไข้มากที่สุดค่ะ
คุณหมอกิ๊ฟ จบการศึกษาเฉพาะทางจาก American Board of Aesthetic Medicine จากประเทศสหรัฐอเมริกา และหลักสูตรผิวหนังและเลเซอร์ผิวหนัง (Diploma Course in Dermatology and Dermatosurgery) จากสถาบันโรคผิวหนังประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยจุนเทนโด ประเทศญี่ปุ่น
คุณหมอกิ๊ฟมีประสบการณ์ด้านความงาม เคยประจำอยู่ที่โรงพยาบาล และคลินิกชั้นนำมามากกว่า 11 ปี ดูแลคนไข้มามากกว่า 10,000 เคส คุณหมอมีความใส่ใจและดูแลคนไข้ทุกคนเป็นอย่างดี คุณหมอตั้งใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ดีที่สุด เพื่อนำเข้ามาใช้ในคลินิกเป็นอย่างมาก ทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ จะต้องได้มาตรฐาน เห็นผลลัพธ์ที่ดี และที่สำคัญคือมีความปลอดภัย
หลักการดูแลคนไข้ที่คุณหมอกิ๊ฟมักจะพูดอยู่เสมอ คือ “หมอตั้งใจดูแลคนไข้ทุกคนให้เหมือนกับที่หมอดูแลตัวเองและคนในครอบครัวที่หมอรัก สิ่งใดที่หมอคิดว่าดีกับตัวเอง คนไข้ของหมอก็จะต้องได้รับสิ่งนั้นเช่นเดียวกันค่ะ”
รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ MICHIKO Clinic






