ความงาม (Aesthetics)

ร้อยไหม

ในสมัยก่อน วิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังได้ ก็คือการผ่าตัดดึงหน้า หรือผ่าตัดยกกระชับหน้า เพราะถึงแม้ว่าการผลัดผิวใหม่จะช่วยฟื้นฟูความกระชับของผิวได้ในระดับหนึ่ง แต่หากผิวหนังหย่อนคล้อยแล้ว มีเพียงมีดผ่าตัดเท่านั้นที่จะช่วยได้ อย่างไรก็ตาม ทางการแพทย์ได้มีการพัฒนาขั้นตอนในรูปแบบใหม่ที่จะมาช่วยเหลือในเรื่องของความหย่อนคล้อยได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ที่เรียกว่า “การร้อยไหม”

POSTED ON 12/05/2022 BY MICHIKOCLINIC

การร้อยไหม

พญ.วิสุทธิยา บุญสม (หมอกิ๊ฟ)

ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

โปรแกรมร้อยไหมของ Michiko Clinic

ร้อยไหมมิชิโกะ ไหมยกหน้าเรียวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (2 in 1)

  • เส้นไหมเหงี่ยง เส้นใหญ่ ยกหน้าได้ดี ปลายเข็มทู่ ลดโอกาสบวมช้ำ เส้นไหมเคลือบ DNA และ Growth factorกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • เห็นผลทันที บวมช้ำน้อยที่สุด ด้วยเทคนิคเฉพาะในการประเมินรูปหน้าตามแนวทิศทางแรงที่ต่อต้านความหย่อนคล้อย
  • จำนวนเส้นไหม ตั้งแต่ 6 – 10 เส้นร้อยไหมมินาโกะ ไหมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • ไหมเส้นเล็ก เน้นร้อยเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนบนใบหน้าให้ดูเฟิร์ม แน่น และกระชับมากยิ่งขึ้น
  • เห็นผลหลังทำประมาณ 2-4 สัปดาห์ บวมช้ำน้อย
  • จำนวนเส้นไหม ตั้งแต่ 20 – 100 เส้น

ร้อยไหมจมูกฮิโกะ ปรับรูปจมูกให้โด่งขึ้นแบบธรรมชาติ

  • เพิ่มสันจมูกด้วยการร้อยไหมจมูกแบบบวมและช้ำน้อยที่สุด มีเหงี่ยงรอบทิศทาง 360 องศา
  • ช่วยปรับรูปจมูกให้โด่งขึ้นแบบธรรมชาติ
  • ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น
  • จำนวนเส้นไหม ตั้งแต่ 4 – 12 เส้น

ร้อยไหมฮานาโกะ Foxy eye ปรับยกคิ้วและหางตาให้ดูสดใส โฉบเฉี่ยวมีสไตล์

  • เส้นไหมเหงี่ยงกรวยรุ่นใหม่ล่าสุด PLLA + PLC เส้นใหญ่ เคลือบวิตามินซี ทำให้มีแรงยกได้ดีและสลายตัวช้า
  • สำหรับปรับยกคิ้วให้ตาดูสดใส และปรับหางตาให้ดูโฉบเฉี่ยวเซ็กซี่
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เสี่ยงหนังตาบวม และไม่ต้องพักฟื้น
  • จำนวนเส้นไหม ตั้งแต่ 4 – 10 เส้น

ร้อยไหมคืออะไร?

การร้อยไหม เป็นหนึ่งในกระบวนการเสริมความงามที่ช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1990 แต่เพิ่งได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยการร้อยไหมจะใช้ไหมละลายเกรดทางการแพทย์ร้อยเข้าไปใต้ผิวหนังในบริเวณต่างๆ ซึ่งตัวไหมจะมีตะขอเกี่ยวขนาดเล็กซึ่งจะเกี่ยวเอาเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อให้ยกขึ้นตามแนวเส้นไหม เมือดึงด้ายให้แน่น จะทำให้ผิวดูกระชับผิวมากยิ่งขึ้น โดยไหมจะค่อยๆสลายตัวไปเองภายใน 6-8 เดือน นอกจากนี้การเกี่ยวกับเนื้อเยื่อ จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนมาซ่อมแซม และทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยการร้อยไหมจะนิยมใช้กับผิวหน้ามากกว่าผิวกาย เพื่อช่วยแก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย รอยเหี่ยวย่นต่างๆ บริเวณร่องจมูก แก้ม หน้าผาก กราม และขากรรไกร อีกทั้งยังสามารถใช้กับการยกกระชับทรวงอก หลังการตั้งครรภ์หรือลดน้ำหนักได้อีกด้วย

คอลลาเจนช่วยสนับสนุนปัจจัยการเจริญเติบโตที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อสภาพผิว ช่วยรักษาบาดแผล ทำให้ผิวแข็งแรง เต่งตึง และอ่อนนุ่ม ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของมนุษย์จะผลิตคอลลาเจนน้อยลง ทำให้ความหนาของผิวลดลงมากถึง 80% และเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดริ้วรอยและผิวหนังส่วนเกิน โดยเมื่อผิวหนังอ่อนแอลง จะไม่สามารถรองรับเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนังได้ ทำให้ผิวหนังหย่อนยานไปตามแรงโน้มถ่วง  และเนื่องจากการร้อยไหมช่วยทำให้ผิวกระชับและช่วยกระตุ้นคอลลาเจน จึงกลายเป็นกระบวนการที่มีบทบาทสำคัญในการชะลอความชราภาพ กล่าวอีกนัยหนึ่ง การร้อยไหมเป็นกระบวนการที่ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อใบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่ได้รับการร้อยไหมจะสังเกตเห็นว่าสีผิวและความกระชับของผิวค่อยๆดีขึ้น

การร้อยไหมเหมาะกับใคร?

การร้อยไหมเหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30-60 ปีขึ้นไป และมีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย อยากยกกระชับผิวให้เต่งตึง อ่อนเยาว์ อยากลดริ้วรอยต่างๆ หรือปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัด

การร้อยไหมช่วยอะไรบ้าง?

การร้อยไหมสามารถช่วยในเรื่อง

  • ร้อยไหมยกกระชับ แก้ปัญหาผิวหนังหย่อน
  • ร้อยไหมกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอย
  • ร้อยไหมจมูก ทำให้จมูกโด่งสวย

ขั้นตอนการร้อยไหม

เนื่องจากการร้อยไหมเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการทำ จึงควรศึกษาข้อมูลและเลือกใช้บริการสถานที่ที่น่าเชื่อถือและผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยแล้วเท่านั้น เริ่มจากการปรึกษาแพทย์ถึงผลลัพธ์ที่ต้องการ ขั้นตอน ความเสี่ยง ผลข้างเคียง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการทำ โดยจะต้องมีการประเมินสภาพผิว เพื่อดูว่าจะต้องใช้ไหมประเภทใดและจำนวนเท่าไร รวมไปถึงประเภทของยาชาและปริมาณที่จะต้องได้รับ

ขั้นตอนการร้อยไหม

ขั้นตอนในการร้อยไหมนั้นอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับบริเวณที่คุณต้องการทำ แต่พื้นฐานทางเทคนิคจะเหมือนกัน แพทย์จะใช้ยาชาบริเวณผิวหนังที่ต้องการทำการร้อยไหม จากนั้นจะทำการใช้เข็มที่สอดไหมเข้าไปใต้ผิวหนังของคุณซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ซึ่งคุณจะสามารถรู้สึกได้ถึงความกระชับใต้ผิวหนัง และหลังจากดึงเข็มออก ก็จะเป็นการเสร็จสมบูรณ์ คุณสามารถกลับบ้านหรือกลับไปทำงานได้ทันที 

การร้อยไหมอยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลลัพธ์จากการร้อยไหมนั้น จะอยู่ประมาณ 1-2 ปี เนื่องจากเป็นเทคนิคยกกระชับผิวหน้าเพียงชั่วคราวเท่านั้น 

ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม

หลังจากการร้อยไหม คุณอาจจะพบอาการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่าง อาการฟกช้ำ, บวม, มีเลือดออก, ปวดเล็กน้อยบริเวณที่ใช้เข็ม, หรือการติดเชื้อจากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดหรือขั้นตอนที่ไม่ถูกต้อง โดยในบางรายอาจมีรอยย่นบนผิวหนังหลังการทำ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถหายไปเองได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่ควรระวังเรื่องการติดเชื้อหรือการเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นได้ 10-20% เป็นอาการที่ไม่รุนแรงและสามารถแก้ไขได้ เช่น การติดเชื้อ, การอักเสบของเนื้อเยื่อ, ไหมหลุดออกมา, ไหมแตกหัก, หรือใบหน้าไม่เท่ากัน ส่วนภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น เส้นประสาทบนใบหน้าเสียหาย, มีอาการปวดเรื้อรัง. เลือดออก, ประสาทการรับรู้บกพร่อง, ภาวะที่ร่างกายตอบสนองต่อสารที่ก่อให้เกิดอาหารแพ้มากกว่าปกติ หากมีอาการร้ายแรงดังกล่าว จะต้องรีบพบแพทย์ในทันที

การดูแลตัวเองหลังการร้อยไหม

ห้ามแกะ เกา หรือกดนวดบริเวณรอยช้ำ หรือบริเวณที่มีอาการบวมแดงในจุดที่ร้อยไหม รอยดังกล่าวสามารถหายไปเองได้ใน 2-3 วัน โดยสามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด และลดบวมได้ ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะในช่วงสามวันแรก เพราะอาจจะทำให้ไหมเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง อีกทั้งควรงดหัตถการอื่นๆที่ใช้ความร้อน เช่น การเลเซอร์ เป็นเวลา 2 เดือนหลังจากการร้อยไหม ควรดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดตามคำสั่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หลีกเลี่ยงความร้อน งดดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ และพยายามไม่สัมผัสใบหน้า

เนื่องจากการร้อยไหมนั้นมีความเสี่ยงต่ำมากๆ ปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัด และไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น อีกทั้งยังเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นิยมกันอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับ ลดริ้วรอย และปรับให้รูปหน้าเรียวขึ้น อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ก่อนการทำทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ