บทความ
วิธีปฏิบัติก่อนและหลังการฉีดโบท็อก
คาดว่าหลายคนคงรู้จัก “โบท็อกซ์ (Botox)” กันอยู่แล้ว เพราะเป็นนวัตกรรมความงามที่เป็นที่นิยมอย่างมากในการลดริ้วรอย และช่วยปรับรูปหน้า ทำให้ใบหน้ากระชับและเต่งตึงมากที่สุด อีกทั้งยังสามารถช่วยรักษาอาการกล้ามเนื้อคอกระตุก กล้ามเนื้อตากระตุก ปวดไมเกรน ปัญหาผู้มีเหงื่อออกมากผิดปกติ รวมไปถึงอาการตาเหล่ตาเขได้เช่นกัน
โดยผู้คนส่วนมากมักจะนิยมฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอย ลดกราม หรือลิฟกรอบหน้า ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์นั้นจะต้องมีการเตรียมตัวก่อนฉีด และดูแลหลังการฉีด เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ตรงกับที่ต้องการ และไม่เกิดผลข้างเคียงอื่นๆตามมา
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบถึงวิธีการปฏิบัติทั้งก่อนและหลังการฉีดโบท็อกซ์ที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ในบทความนี้เราจะมาแนะนำข้อปฏิบัติที่ควรทำสำหรับการฉีดโบท็อกซ์กันค่ะ
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
คุณควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการฉีดโบท็อกซ์ทุกครั้ง เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับบริเวณที่ต้องการฉีด และตรวจเช็คสภาพผิวหนังก่อนการฉีดโบท็อกซ์ โดยควรเตรียมตัวดังนี้
- มีสุขภาพแข็งแรง และได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ หากมีโรคประจำตัวจะต้องแจ้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง
- ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- งดใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน และยาต้านการอักเสบ เช่น Ibruprofen และ Naproxen เพราะอาจทำให้เกิดรอยช้ำ อีกทั้งควรงดการใช้วิตามินที่ทำให้เลือดหยุดยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม และใบแปะก๊วย อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีดโบท็อกซ์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่อย่างน้อย 2 วันก่อนการฉีด
หลังฉีดโบท็อกซ์ ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
หลังจากการฉีดโบท็อกซ์นั้น คุณควรดูแลตัวเองตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัว เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์แบบที่ต้องการ โดยควรปฏิบัติดังนี้

- ขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ทุกๆ 15 นาทีต่อเนื่องประมาณ 4 ชั่วโมงแรก เพื่อทำให้โบท็อกซ์สามารถกระจายเข้าสู่กล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น
- ไม่ถูหรือนวดบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์หลังจากรับการรักษา
- หลีกเลี่ยงการนอนราบในช่วง 4 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด เพราะอาจทำให้โบท็อกซ์ไหลไปในบริเวณอื่น โดยให้นอนหงายและใช้การหนุนหมอนสูงแทน
- สามารถล้างทำความสะอาดใบหน้าได้ หลัง 4 ชั่วโมง
- สามารถใช้เครื่องสำอางค์และครีมบำรุงได้ในวันถัดไป
- งดใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบ และวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดยาก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ 3-5 วันหลังการฉีด
- สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ควรหลีกเลี่ยงการของขบเคี้ยว ของแข็ง และหมากฝรั่ง
- หากมีอาการบวมแดงหลังการฉีด สามารถใช้การประคบเย็นด้วยน้ำแข็งได้
- ควรไปพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามผลลัพธ์ และประเมินผลการรักษา
หลังฉีดโบท็อกซ์ จะเห็นผลลัพธ์เมื่อไร?
หลังจากการฉีดโบท็อกซ์ และกล้ามเนื้อเริ่มคลายตัวแล้ว ส่วนใหญ่จะสามารถเห็นผลลัพธ์จากการฉีดภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อผลิตภัณฑ์ที่ฉีดและการดูแลรักษาตนเอง
โดยผลลัพธ์ของโบท็อกซ์นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละบริเวณที่ฉีดด้วยเช่นกัน
- โบท็อกซ์ลดริ้วรอย
จะสามารถเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- โบท็อกซ์ลดกราม
จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนภายใน 1 เดือน โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 6-9 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู๋กับการดูแลตัวเอง และหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารขบเคี้ยว ของแข็ง หรือหมากฝรั่ง
- โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า
จะสามารถเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มประสิทธิภาพภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยหากฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าแบบ Dermolift จะอยู่ได้ 1-2 เดือน ในขณะที่ฉีดแบบ Nefertiti จะอยู่ได้นาน 3-4 เดือน
- โบท็อกซ์ลดเหงื่อ
จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ใน 2 สัปดาห์ และอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน โดยมักนิยมฉีดที่รักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า

หากคุณกำลังสนใจที่จะฉีดโบท็อกซ์ สามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ได้ที่ Michiko Clinic ซึ่งมีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 11 ปี โดยคุณหมอเน้นการดูภาพรวมของใบหน้า ฉีดให้เข้ากับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย